หมวดหมู่อบรมสัมมนา

หลักสูตร บริหารอย่างมืออาชีพ ด้วย แผนธุรกิจ

มีค่าใช้จ่าย บาท

 

 งานสัมมนาอบรม การเขียนแผนธุรกิจ

คอร์สสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นมืออาชีพในการบริหารธุรกิจ

เปลี่ยน ไอเดียธุรกิจ ให้เป็น (HOW TO)  วิธีปฏิบัติ

            ลดความเสี่ยง เน้นทำกำไร บริหารแบบมืออาชีพ รวย รอด รุ่ง        

สิ่งที่จะได้จากคอร์สเขียนแผนธุรกิจนี้ คือ             

   1.  แผนธุรกิจ ที่คุณเข้าใจอย่างถ่องแท้ ตอบโจทย์ รวย รอด รุ่ง
   2.  Connection เพื่อนร่วมวงการธุรกิจใหม่ๆ
   3. ได้แลกเปลี่ยนวิธีคิด วิธีการใหม่ๆ และ ไอเดียใหม่ๆ ข้อมูลใหม่ๆ กับ วิทยากร และคนใน class

 

วัตถุประสงค์ของการจัดงานอบรม

     เพื่อให้ท่านได้แผนธุรกิจที่ต้องการ ตรงจุด(ภาคปฏิบัติที่เหมาะสม) ตรงใจ (ภาคปฏิบัติที่ท่านเลือกเองจากข้อมูลที่ได้และ เหมาะกับธุรกิจของท่าน และได้ ข้อมูลในหลากหลายธุรกิจ และหลากหลายวิธีการ ที่สำคัญที่สุด ตอบโจทย์ปัญหาของท่าน ได้อย่างรวดเร็ว กว่า ลองผิดลองถูก 

       เพื่อให้

  1. บุคคลทั่วไปที่ต้องการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง และ อยากเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจ
  2. ผู้ที่กำลังจะเปิดธุรกิจ หรือ จัดตั้งกิจการ (เช่น SME  )
  3. ผู้ที่ต้องการขยายกิจการ
  4. ผู้ที่ต้องการประเมินความเสี่ยงของกิจการ
  5. ผู้ที่ต้องการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารภายใน
  6. ผู้ที่ต้องการเขียนแผนธุรกิจเพื่อ ขออนุมัติรับเงินกู้จากสถาบันการเงินต่างๆ

 

ที่สนใจหาโค้ชหรือที่ปรึกษาในราคาที่ เหมาะสม ได้คุณภาพ และ ทางวิทยากร จะปรับเปลี่ยนการเขียนแผนธุรกิจไปตามรายละเอียดของธุรกิจรายบุคคล             

ทำไมต้องเรียนการเขียนแผนธุรกิจ

 เนื่องจากเศรษฐกิจในปัจจุบันทั้งระดับโลกและระดับประเทศที่ชะลอตัวลง ท่ามกลางอัตราการแข่งขันที่สูงขึ้น และ ความก้าวหน้าทางความรู้ที่ไม่สิ้นสุด รู้ก่อน ทำก่อน เสร็จก่อน ประสบความสำเร็จก่อน เพราะฉะนั้นนักธุรกิจ(ผู้ประกอบการ)สมัยนี้จึงควรทำธุรกิจอย่างรอบคอบ รวดเร็ว เพื่อทำกำไรได้ตามต้องการและลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด ซึ่งมีหลาย บทความและงานวิจัย ได้ชี้ให้เห็นว่าการที่จะประสบความสำเร็จ ของธุรกิจเปิดใหม่ในปัจจุบัน ว่า จากธุรกิจที่เปิดใหม่ในปีแรก 100% จะเหลือเพียง 50%ในสิ้นปีแรก และเหลือไม่ถึง10% ในอีกสองปี  เท่านั้น ดังนั้นการเจริญเติบโตและมีกำไรต่อเนื่องได้นั้น เราจึงต้องมีการเขียนแผนธุรกิจให้เราสามารถ.. สรุปได้ดังนี้ ว่า

 

  1. เพื่อให้มั่นใจได้ว่าแผนธุรกิจที่ทำ นั้น คิดอย่าง ครบถ้วนรอบด้านแล้ว
  2. จะได้รู้ว่า จะทำ จะไม่ทำ จะทำเพราะอะไร จะทำอย่างไร ในเวลาอันสั้น กว่า
  3. เรียนให้เกิด ความชำนาญ รวดเร็ว ทันใจ ทันสถานการณ์ ตอบโจทย์(ทำก่อนรวยก่อน)
  4. รู้วิธีคิด รู้วิธีทำ รู้วิธีวิเคราะห์ รู้ปัญหา รู้วิธีป้องกัน อย่างถูกต้อง
  5. เป็นความรู้ไว้ใช้ได้ตลอดชิวิต หรือ เป็นมืออาชีพ

 

และ ตอบโจทย์ ทำไมต้องเขียนเอง  (ทำไมไม่จ้าง) เพราะ แผนธุรกิจสามารถเปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา ตามปัจจัยต่างๆที่เกิดขึ้น ถ้าเราเขียนแผนธุรกิจเป็นก็จะช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจได้ตรงจุดกว่า และทันการณ์แบบมืออาชีพ

ประโยชน์ของการเขียนแผนธุรกิจ

  1. ทำให้เห็นภาพรวมธุรกิจได้ชัดเจน โดย การแปลงความคิด เป็น ขั้นตอนการปฏิบัติ
  2. จากแผนธุรกิจ ทำให้เห็น ข้อผิดพลาดได้ง่ายขึ้น็น็็้้่่แก      เพราะ มีการคิดอย่างรอบคอบ
  3. เมื่อจะปฏิบัติงาน เราจะรู้ชัดเจนและมั่นใจ ว่าจะต้องทำอะไรก่อน-หลัง
  4. จะสามารถป้องกัน และ แก้ไข ปัญหา ที่อาจเกิดขึ้น ได้ถูกวิธี และ ทันท่วงที
  5. สามารถนำไปเสนอขออนุมัติรับเงินกู้จากสถาบันการเงินต่างๆได้

รายละเอียดการเขียนแผนธุรกิจ มีรายละเอียด ดังนี้

1. บทสรุปผู้บริหาร 

2. วัตถุประสงค์ในการนำเสนอแผนธุรกิจ

3. ความเป็นมาของธุรกิจ

     3.1 ประวัติความเป็นมา หรือแนวคิดในการจัดตั้งธุรกิจ

     3.2 สรุปผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของธุรกิจ

     3.3 ขั้นตอนการเริ่มดำเนินงาน

4. ผลิตภัณฑ์/สินค้า/บริการ

     4.1 รายละเอียดผลิตภัณฑ์/ สินค้า/ บริการ

5. การวิเคราะห์อุตสาหกรรมและการวิเคราะห์ตลาด

     5.1 สภาวะอุตสาหกรรมและสภาวะตลาด

     5.2 การแบ่งส่วนตลาดและส่วนแบ่งทางการตลาด

     5.3 แนวโน้มทางการตลาด

     5.4 ตลาดเป้าหมาย

     5.5 ลักษณะทั่วไปของลูกค้า

     5.6 สภาพการแข่งขัน

     5.7 คู่แข่งขัน

     5.8 รายละเอียดการเปรียบเทียบกับคู่แข่งขัน

     5.9 การวิเคราะห์ปัจจัยของธุรกิจ หรือ SWOT Analysis

            5.9.1 การวิเคราะห์ปัจจัยภายใน

            5.9.2 การวิเคราะห์ปัจจัยภายนอก

6. แผนการบริหารจัดการ

     6.1 ข้อมูลธุรกิจ

     6.2 รายนามคณะกรรมการบริษัท

     6.3 อำนาจการลงนามผูกพันบริษัทของกรรมการ

     6.4 รายชื่อผู้ถือหุ้น/หุ้นส่วนและสัดส่วนการถือครอง

     6.5 ประวัติของกรรมการหรือผู้บริหาร

     6.6 แผนผังองค์กร

     6.7 หน้าที่ความรับผิดชอบและคุณสมบัติของบุคลากรหลัก

     6.8 แผนงานด้านบุคลากร และค่าใช้จ่ายบุคลากรของธุรกิจ

     6.9 วิสัยทัศน์

     6.10 พันธกิจ

     6.11 เป้าหมายทางธุรกิจ

     6.12 ปัจจัยแห่งความสำเร็จ

     6.13 นโยบายการจ่ายเงินปันผล หรือเงื่อนไขการจ่ายผลประโยชน์

     6.14 แผนการดำเนินการอื่นๆของธุรกิจ

7. แผนการตลาด

     7.1 เป้าหมายทางการตลาด

     7.2 การกำหนดลูกค้าเป้าหมาย

     7.3 กลยุทธ์ทางการตลาด

            7.3.1 กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์/การให้บริการ

            7.3.2 กลยุทธ์ด้านราคา

            7.3.3 กลยุทธ์ด้านช่องทางจัดจำหน่าย

            7.3.4 กลยุทธ์ด้านส่งเสริมการตลาด

     7.4 กิจกรรมหรือการดำเนินการทางการตลาด

8. แผนการผลิต/ขายสินค้า/การให้บริการ

     8.1 สถานประกอบการในการผลิต/ขายสินค้า/การให้บริการ

     8.2 อุปกรณ์ และเครื่องมือในการผลิต/ขายสินค้า/การให้บริการ

     8.3 ข้อมูลการผลิต/ขายสินค้า/การให้บริการ

     8.4 รายละเอียดผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการผลิต/ขายสินค้า/การให้บริการ

     8.5 ขั้นตอนการผลิต/ขายสินค้า/การให้บริการ

     8.6 แผนผังกระบวนการผลิต/ขายสินค้า/การให้บริการ

9. แผนการเงิน

     9.1 ประมาณการในการลงทุน

     9.2 ทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน

     9.3 สมมติฐานทางการเงิน

     9.4 นโยบายทางการเงิน

     9.5 ประมาณการในการบริการรายเดือน

     9.6 ประมาณการรายได้จากการขายสินค้า/การให้บริการ

     9.7 ประมาณการต้นทุนสินค้าซื้อมาเพื่อการขายสินค้า/การให้บริการ

     9.8 ประมาณการต้นทุนการขายสินค้า/การให้บริการ

     9.9 ประมาณการค่าใช้จ่ายในการบริหารและการขาย

     9.10 ประมาณการงบกำไรขาดทุน

     9.11 ประมาณการงบกระแสเงินสด

     9.12 ประมาณการงบดุล

     9.13 การวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน

10. แผนฉุกเฉินหรือแผนประเมินความเสี่ยง (ถ้ามี)

หมายเหตุ : รายละเอียดในการทำแผนธุรกิจจะปรับเปลี่ยนไปตามรายละเอียดของธุรกิจ เดี๋ยวทีมงานจะขอข้อมูลเพิ่มเติมในภายหลังครับ

ขอบเขตการสอน: 

 แผนธุรกิจ : อ้างอิงผลการวิจัยจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยหรือสถาบันอื่นที่น่าเชื่อถือ 

 

แนวทางในการอบรม

 

        การฝึกอบรมในรูปแบบของการเรียนรู้แบบผู้ใหญ่ ทำให้ผู้เรียนรู้สามารถนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานได้ทันที เพราะได้ดำเนินการคิดร่วมกันระหว่างการฝึกอบรมแล้ว

 

    การฝึกอบรมมีความหลากหลาย และเข้าใจง่าย
           1.การบรรยาย : เน้นเนื้อหาธุรกิจที่ผู้เข้าอบรมสนใจ

 

           2. Work Shop: กระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน

 

           3.การตอบคำถาม: จูงใจให้ผู้ฝึกอบรมได้คิด และแสดงความคิดเห็น

           4.การบ้านที่ สามารถนำไปจัดทำเป็นแผนธุรกิจส่วนบุคคล 


ร่วมสร้างความสำเร็จไปด้วยกัน กับงานสัมมนาอบรม 'การเขียนแผนธุรกิจ'

คอร์สอบรมทั้งหมด   4 วันเต็ม 30 ชั่วโมง

    ใน   วันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 21-22 มกราคม 2560

  และ  วันเสาร์-อาทิตย์ที่ 28-29 มกราคม 2560

 

สถานที่ตั้ง: ห้องอบรมของเราตั้งอยู่ที่อาคารสาธรนคร ทาวเวอร์(อาคาร3) ชั้น 28

ติดกับ BTS สถานีช่องนนทรี เดินเพียง 2นาทีจาก BTS เท่านั้น (ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า)

 

สนใจติดต่อลงทะเบียนจองคอร์สอบรมกับเรา  มาได้ตลอดเวลาที่

E-MAIL:  [email protected]

 โทร หรือ Line   :  096-171-3068

หรือ เข้ามาเยี่ยมชมบล็อกของเราได้ที่  www.probusinessplan.blogspot.com

 

เรื่องราคา 

 ค่าใช้จ่ายในการอบรมสัมมนาเขียนแผนธุรกิจ  = 9,990 บาท (4 วันเต็ม จำนวน 30 ชั่วโมง)     

รับจำนวนจำกัด 20 ท่านเท่านั้น ! หมายเหตุ : (จำกัดจำนวนเพื่อความทั่วถึงในการเรียนรู้)

สมัครลงทะเบียนตอนนี้  8 ท่านแรก ในราคาพิเศษเพียง  7890 บาท (โปรโมชั่นนี้หมดเขต 31 ธันวาคม 2559)  

หรือ สมัครเป็นกลุ่ม  3 ท่านขึ้นไป ในราคา 7890 บาท


หน่วยงาน/บริษัท :

ธนภณ พิราภาธนกุล

ชื่อผู้ติดต่อ :

ธนภณ พิราภาธนกุล

โทร :

096-171-3068

ข้อมูลผู้ลงประกาศ

หมายเลขประกาศ

4435

ลงประกาศวันที่

26 พฤศจิกายน 2559 เวลา 07:43 น.

หมวดหมู่หลัก

อบรม การบริหารจัดการ-กลยุทธ์ธุรกิจ

ลักษณะงาน

มีค่าใช้จ่าย

ราคา

หน่วยงาน/บริษัท

ธนภณ พิราภาธนกุล

ชื่อผู้ติดต่อ

ธนภณ พิราภาธนกุล

เบอร์โทรศัพท์

096-171-3068

สัมมนาที่คุณอาจสนใจ

บทความน่าสนใจ

สวมวิญญาณนักคิด ความสำเร็จอยู่ไม่ไกล

สวมวิญญาณนักคิด ความสำเร็จอยู่ไม่ไกล

1.คิดเพื่อเริ่มการคิดเพื่อเริ่ม คือ เวลาคุณต้องการใช้ความคิดเพื่อสร้างระโยชน์ ต้องเริ่มจากการคิดให้เป็น ต่อมาต้องวิเคราะห์ความเป็นไปได้ว่า สิ่งที่จะทำนั้นจะสำเร็จไหม ซึ่งนับเป็นกระบวนการคิดขั้นแรกที่ทุกคนควรรู้ 2.หาไอดอลเมื่อคุณอยากเป็นนักคิด แล้วประสบความสำเร็จ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ลองหาไอดอลคนที่เป็นนักคิด นักสร้างสรรค์ผลงานดู เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน แล้วคุณก็จะถูกสวมวิญาณนักคิดเอง 3.ไม่ลอกผลงานใครนักคิดที่ดี ห้ามลอกผลงานใคร เพราะนักคิดต้องรู้จักสร้างสรรค์งานด้วยตัวเอง จะได้ประสบความสำเร็จอย่างน่าภาคภูมิใจ ที่สำคัญส่งผลให้คนอื่นเชิดชูคุณจากใจจริงอีกด้วย 4.หาจินตนาการจินตนาการ คือ หนทางนำไปสู่ความสำเร็จ ดังนั้น วิธีสร้างจินตนาการง่ายๆ เลยคุณต้องลองวาดฝันว่า คุณอยากทำอะไร ต้องการประสบความสำเร็จด้านไหน แล้วตัวเองมีความถนัดเรื่องอะไร โดยต้องนำทั้งหมดมารวมกันเพื่อสร้างจินตนาการนั้นออกมา แล้วคุณก็จะเห็นลู่ทางในการลงมือทำเอง 5.ออกค้นหาการออกค้นหาสามารถให้อะไรคุณได้มากเลยทีเดียว ทั้งความรู้ แนวคิดใหม่ๆ จินตนาการ ความสร้างสรรค์ และอีกมากมาย ดังนั้น การออกค้นหาสิ่งที่ตัวเองต้องการบนโลกกว้างก็ช่วยได้เยอะเช่นกัน 6.ลงมือทำการลงมือทำทั้งๆ ที่ตัวเองยังไม่มีความรู้ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก หรือเรื่องน่าอาย เพราะการลงมือทำนี่แหละช่วยให้คุณค้นพบความคิดใหม่ๆ แนวทางใหม่ ที่สำคัญอาจทำให้คุณมรประสบการณ์สร้างความสำเร็จได้โดยเร็วอีกด้วย 7.หาเวลาว่างให้ตัวเองการมีเวลาว่างเพื่อคิดอะไรบ้างอย่างในสถานที่ที่เงียบสงบ สะดวกต่อการคิดทบทวนเรื่องต่างๆ ก็สามารถช่วยให้ความคิดไหลลื่น และแตกฉานได้โดยง่าย ดังนั้น ลองหาเวลาว่าง และสถานที่สงบๆ คิดหาความก้าวหน้าดู แล้วคุณจะพบจุดจบแห่งความสำเร็จอย่างแน่นอน 8.อ่านให้เยอะการอ่านให้เยอะๆ คือ การศึกษาความรู้จากตำรา หรือแหล่งความรู้ทั่วไป ซึ่งการที่คุณมีความรู้ มักจะช่วยให้คุณสามารถคิดและวิเคราะห์ความสำเร็จได้ง่ายขึ้น และไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกมากมาย เพียงใช้ความรู้ทั้งหมดมาปฏิบัติให้สำริดผลก็เพียงพอ 9.หาตัวช่วยตัวช่วยที่ดี คือ ช่วยคิด ช่วยวิเคราะห์ และช่วยไตร่ตรอง เพราะบางทีความคิดคุณคนเดียวอาจไม่ใช่ความคิดที่ดีที่สุด จึงต้องมีตัวช่วยอย่างยิ่ง เพื่อให้เกิดหลายแนวความคิดนั่นเอง 10.ดูแล้ววิเคราะห์การวิเคราะห์ผลงานคนอื่น ช่วยให้สมองเกิดกลไก และมีการทำงานที่ดีขึ้น อีกทั้ง ช่วยให้คุณสามารถนำความรู้จากการวิเคราะห์นี้ไปต่อยอดความสำเร็จของตัวเองได้ และเป็นวิธีที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องการประสบความสำเร็จในเรื่องของงาน หรือการดำรงชีวิตของตนเอง

“ฟังสัมมนาอย่างไร ให้ก้าวหน้า!!”

“ฟังสัมมนาอย่างไร ให้ก้าวหน้า!!”

“ฟังสัมมนาอย่างไร ให้ก้าวหน้า!!”“ฟังสัมมนาอย่างไร ให้ก้าวหน้า” ลักษณะของงานสัมมนาทั่วไปเป็นกิจกรรมที่แบ่งออกเป็น 2 วิธี คือ “การประชุม” และ “วิธีการสอน” >>เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็น>>หาข้อสรุปหรือข้อเสนอแนะในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง>>หาทางออกให้กับปัญหาแต่สำหรับใครที่อยากประสบความสำเร็จต้องฟัง แล้ววิเคราะห์ และทดลอง ดังนั้น เรามาดูกันว่า ฟังสัมมนาอย่างไร ให้มีความรู้ และก้าวหน้าได้อย่างสำเร็จ1.ฟังอย่างมีจุดมุ่งหมายโดยทั่วไปจุดมุ่งหมายของการฟังมี 3 อย่าง คือ ฟังเพื่อความเพลิดเพลิน , ฟังเพื่อความรู้ , ฟังเพื่อให้ได้คติชีวิตหรือความจรรโลงใจ ดังนั้น เมื่อใครที่เข้าสัมมนาแล้วมีจุดมุ่งหมายคือ “ความสำเร็จ”ต้องตั้งใจฟังเพื่อความรู้ และตักตวงความรู้จากการฟังให้มากที่สุด ถ้าความจำไม่ค่อยดี ก็ใช้วิธีจดบันทึก เพื่อเก็บความรู้ให้มากที่สุด 2.มีความพร้อมการที่คุณมีความพร้อม ต้องมีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ตลอดจนมีความพร้อมทางสติปัญญา พร้อมทางร่างกาย    เช่น   สุขภาพทางร่างกายเป็นปกติ ไม่เหนื่อย ไม่อิดโรย และต้องพร้อมทางจิตใจด้วย เพื่อให้เวลาฟังสัมมนาจะได้มีสติฟังอย่างเข้าใจ แล้วทุกอย่างจะดีเอง 3.ฟังโดยมีสมาธิสมาธิ คือ สิ่งที่สำคัญสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ซึ่งการฟังโดยมีสมาธิ หมายถึง ฟังด้วยความตั้งใจจดจ่ออยู่กับเรื่องที่ฟัง ไม่ปล่อยจิตใจให้เลื่อนลอยไปที่อื่น ไม่เช่นนั้น ความรู้ที่คุณจะได้รับกลายเป็นศูนย์อย่างแน่นอน 4.กระตือรือร้นใครที่ฟังสัมมนาความรู้มีความกระตือรือร้น มักจะเป็นผู้ฟังที่มองเห็นประโยชน์หรือเห็นคุณค่า จึงสนใจฟังเรื่องนั้นจริงๆ ซึ่งความกระตือรือร้นส่งผลดี ทำให้จิตใจ และความตั้งใจที่จะเก็บเกี่ยวความรู้ได้มากที่สุด ไม่เพียงเท่านี้ ยังทำให้สมองเปิดรับความรู้ได้จำนวนมากอีกด้วย 5.ไม่มีอคติคนที่มีอคติ ย่อมทำให้จิตใจร้อน ปิดการรับฟัง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อตัวคุณเลย เพราะถ้าหากต้องการฟังสัมมนาให้เกิดความรู้ และความเข้าใจไม่ว่าคุณจะมีอคติอะไรก็ตามแต่ ต้องปล่อยวาง และแยกะแยะ มุ่งศึกษาหาความรู้ดีกว่า ที่สำคัญการไม่มีอคติต้องพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วน เพื่อไม่ให้เป็นโทษแก่ผู้อื่น 6.มีมารยาทในการฟังมารยาทในการฟังที่ดี ต้องรู้จักเคารพผู้พูด และคนรอบข้าง โดยการแสดงความกระตือรือร้นที่จะฟัง ตั้งคำถามตามความเหมาะสม ยอมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป และต้องไม่ใช้อารมณ์หรือนิสัยส่วนตัวมาตัดสินเรื่องต่างๆ ในห้องสัมมนาด้วย 7.มีความประสงค์ที่แน่นอนเมื่อคุณเลือกที่จะเข้าสัมมนาเพื่อไปหาความรู้ นั่นคือความประสงค์ของคุณ ดังนั้น ต้องพยายามฟังให้ได้ตามความจุดหมายมากที่สุด โดยใช้วิจารณญาณเลือกฟังแต่เรื่องที่ควรฟังและหลีกเลี่ยงเรื่องที่ไม่เหมาะสม รู้จักแยกแยะส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงและความคิดเห็น รู้จักใช้เหตุผลประกอบในการแสดงความเห็น โดยต้องรู้จักใช้ศิลปะในการฟังด้วย 8.แยกแยะข้อเท็จจริงเมื่อฟังสัมมนาความรู้แล้ว อย่าเชื่อไปทุกเรื่องที่ได้ฟังมา คุณต้องนำข้อมูลนั้นมาพิจารณาให้เห็นถึงข้อเท็จจริง ถ้าข้อมูลไหนที่ไม่แน่ใจต้องไปค้นหาคำตอบ หรือยกมือเพื่อสอบถามให้ได้รายละเอียดที่แน่ชัด เป็นต้น 9.ดูเจตนาของผู้พูดผุ้ฟังที่ดี ที่ต้องการได้ความรู้จากการฟังสัมมนา เพื่อใช้เป็นแนวทางหาหนทางความสำเร็จ ต้องรู้จักดูเจตนาของผู้พูด เพราะบางครั้งผู้พูดอาจบอกเล่า แถลงการณ์รายงานเรื่องราวต่างๆหรือพูดนอกเรื่องไปต่างๆ นานา ฉะนั้น ผู้ฟังต้องพิจารณาถึงข้อมูลที่มีสาระกับไม่มีสาระให้ถูกต้อง เพื่อการนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 10.ความสำคัญของเรื่องที่พูดผู้ฟังต้องวิเคราะห์ถึงความสำคัญและความเป็นมาของเรื่องที่ผู้พูดให้ดีๆ ว่าผู้พูดได้แสดงความสำคัญเรื่องนั้นๆ อย่างไรบ้าง และมีประโยชน์ต่อตัวคุณเองมากน้อยแค่ไหนเพราะการที่เราจดทุกรายละเอียดที่พูด อาจทำให้ข้อมูลที่สำคัญหล่นหลายไปได้ จึงควรแยะความสำคัญของเรื่องที่ฟังด้วย ดังนั้น คุณเองก็ต้องย้อนกลับไปอ่านข้อที่ 1 ด้วยว่าตัวคุณเองมีจุดมุ่งหมายอย่างไรกับการเข้าฟังสัมมนาในครั้งนี้

10 คุณสมบัติของการเป็นผู้นำ

10 คุณสมบัติของการเป็นผู้นำ

อยากประสบความสำเร็จต้องมีสิ่งนี้เป็นพื้นฐาน ภาวะการเป็นผู้นำไม่ใช่ว่าหัวหน้างาน ผู้จัดการเท่านั้นที่ต้องมีแต่เป็นสิ่งที่ทุกคนควรจะมี เพราะมีความสำคัญต่อการทำงานมากๆผู้นำที่ยอดเยี่ยม ต้องมีวิสัยทัศน์ มีความกล้าหาญ ความซื่อสัตย์ ความอ่อนน้อมถ่อมตน1.เห็นคุณค่าผู้นำที่ชาญฉลาดจะให้ความสำคัญกับทีมและบุคคล เพราะตระหนักว่าความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ก็เพราะความช่วยเหลือของทีม ยิ่งไปกว่านั้นการเห็นคุณค่ายังช่วยให้กำลังใจพัฒนาความเชื่อมั่นและสร้างจุดแข็งอีกด้วย 2.มั่นใจความไว้วางใจและความเชื่อมั่นในการเป็นผู้นำเป็นตัวบ่งชี้ ความน่าเชื่อถือและความพึงพอใจของพนักงาน ผู้นำที่ดีต้องไม่กลัวที่จะถูกท้าทายด้วยอุปสรรคปัญหาใหม่ๆ 3.ความเห็นอกเห็นใจผู้นำที่ดีจะใช้ความเห็นอกเห็นใจในการรับรู้ ถึงความต้องการของผู้ที่พวกเขาเป็นผู้นำและตัดสินใจเลือกแนวทางที่จะเป็นประโยชน์ สูงสุดแก่บุคคลและทีมงาน 4.กล้าหาญผู้นำต้องกล้าที่จะตัดสินใจในทันที ไม่แสดงท่าทีลังเลหรือขาดความมั่นใจ ความกล้าหาญของผู้นำจะสร้างขวัญกำลังใจให้กับลูกทีมได้ดี 5.มีความยืดหยุ่นผู้นำที่ดีสามารถยืดหยุ่นได้ พวกเขาปรับเปลี่ยนตนเอง ตามสถานการณ์บริบทและสถานการณ์ที่พวกเขาพบ พวกเขายินดีต้อนรับแนวคิดใหม่ๆและยอมรับ การเปลี่ยนแปลง 6.ซื่อสัตย์ผู้นำที่ฉลาดไม่กลัวที่จะสื่อสารความจริงกับคนของพวกเขา ความซื่อสัตย์เป็นเรื่องของความสุจริต ที่จะสร้างความไว้วางใจ ความซื่อสัตย์ทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น 7.หนักแน่นไม่กลัวปัญหาที่ต้องเผชิญ มีสติและรู้เสมอว่าทุกปัญหา ต้องผ่านไปได้เสมอมีจุดยืนของตัวเองกล้าหาญที่จะยืนหยัด รักษาความถูกต้อง แม้จะเจอกับอุปสรรค ผู้นำต้องหนักแน่นและไม่ท้อถอยง่ายๆ ไม่งั้นคุณก็ป็นเพียงผู้ที่เกิดมาเพื่ออยู่ ภายใต้บังคับบัญชาเท่านั้น 8.ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดผู้นำที่ดีต้องมีความเป็นกลาง ไม่อคติกับผู้ร่วมงาน เพราะอาจส่งผลให้คนในทีมเขม่นกันเอง ประสิทธิภาพของงานก็ด้อยลงเพราะทีมขาดความสามัคคี 9.ตอบสนองผู้นำที่ดีจะตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใต้บังคับบัญชา รู้จักปรับพฤติกรรมให้เหมาะสมกับสถานการณ์มากที่สุด คอยรับฟังทีมและให้ความสำคัญกับทีม 10.นอบน้อมความอ่อนน้อมถ่อมตนไม่ได้หมายความว่าคุณอ่อนแอ หรือไม่มั่นใจในตนเอง แต่ชี้ให้เห็นว่าคุณมีความมั่นใจ ในตนเองและมีความตระหนักในตนเองในการรับรู้ คุณค่าของผู้อื่น

10 เคล็ดลับสร้างแรงบันดาลใจสู่ความสำเร็จ

10 เคล็ดลับสร้างแรงบันดาลใจสู่ความสำเร็จ

1.ทำสิ่งที่ไม่เคยทำไปในที่ที่ไม่เคยไป เมื่อไหร่ที่ชีวิตได้ลองทำหรือได้ไปในสถานที่แปลกใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจแล้วล่ะก็ ความเบื่อหน่าย อาการเนือยๆ มันจะหายไปภายในพริบตาเดียว คุณจะรู้สึกว่าชีวิตยังมีอะไรที่น่าค้นหาอีกเยอะ แล้วแรงบันดาลใจจะหลั่งไหลพรั่งพรูเข้ามาอย่างไม่ขาดสายเลยทีเดียว 2.มองโลกในแง่ดีคนมองโลกในแง่ดี มักมีโอกาสดีกว่าคนอื่น เพราะเมื่อมองทุกอย่างเป็นบวก ก็ช่วยให้มีสุขภาพจิตดี ความคิดโปร่งใส และทำให้เกิดจินตนาการและแรงบันดาลใจที่ดีเกิดขึ้นมาได้ 3.ควรสร้างทัศนะคติแบบ “ฉันทำได้”นี่คือหนึ่งในทัศนะคติที่สำคัญที่สุดในการที่จะประสบความสำเร็จ คนเรามีโอกาสเข้ามาในชีวิตมากมายแต่หลาย ๆ คนก็ได้ปฏิเสธโอกาสเหล่านั้นด้วยคำว่า “ทำไม่ได้” ซึ่งทำให้หลายๆ คนล้มเหลว เมื่อเราคิดว่า “เราทำได้” ร่างกายทุกอย่างก็จะเกิดการตอบสนองต่อความคิดนี้และเราก็จะเห็นเราสามารถทำสิ่งต่างๆได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดแรงบันดาลใจที่จะทำสิ่งต่างๆให้ประสบความสำเร็จ 4.รู้จักบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพและชาญฉลาดทุกคนในโลกนี้มีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากันหมด แต่สิ่งที่ทำให้เกิดความแตกต่างคือ ใครใช้เวลาที่มีอยู่นั้นได้คุ้มค่ากว่ากัน ได้ทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับเป้าหมายของตนหรือไม่ เมื่อตระหนักได้ตามนี้จะทำให้รู้ว่าควรมุ่งมั่นต่อเป้าหมายของตนและดำเนินชีวิตได้ดียิ่งขึ้น 5.ความผิดพลาดมีไว้ให้เรียนรู้ไม่ได้มีไว้ให้เจ็บช้ำหรือโศกเศร้าเสียใจ แน่นอนว่าเราทุกคนไม่สามารถห้ามการเสียใจหรือโศกเศร้าเมื่อเกิดความผิดพลาดได้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ เมื่อรู้ว่าผิดพลาดแล้วให้คิดหาสาเหตุของความผิดพลาดนั้น แล้วนำมาปรับปรุงแก้ไขไม่ให้เกิดขึ้นได้อีก 6.จดบันทึกคนประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะใช้เวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมงต่อวัน ในการคิดเพื่อที่จะคิดอย่างมีประสิทธิภาพ การจดบันทึกจะช่วยให้เราจำสิ่งๆนั้นได้ดีขึ้นหลายเท่า นอกจากนี้คุณยังสามารถจดบันทึกเรื่องราวต่างๆ เช่น ความสำเร็จ ความล้มเหลว ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับเราได้เมื่อเราได้ย้อนกลับมาอ่านอีกครั้งหนึ่ง 7.การหาแบบอย่างหรือบุคคลตัวอย่างโดยเฉพาะบุคคลที่ประสบความสำเร็จหรือบุคคลที่เราอยากจะมีชีวิตแบบเขาก็เป็นอีกทางหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจขึ้นภายในตนเอง ศึกษาว่าเขามีแนวคิด แนวปฏิบัติอย่างไรจึงประสบความสำเร็จเราก็สามารถนำเอามาสร้างแรงบันดาลใจเพื่อต้นแบบสู่ความสำเร็จของเราได้ 8.มีเป้าหมายและวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนก่อนจะพิชิตเป้าหมาย ต้องรู้ก่อนว่า เป้าหมายของเรานั้นคืออะไร เป้าหมายที่ชัดเจนทำให้เรารู้ว่าต้องการจะเป็นอะไร ผู้ที่ไม่มีเป้าหมายในชีวิตก็เหมือนคนที่ไม่มีแรงผลักดัน ขาดแรงจูงใจ และจะไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต 9.การอ่านหนังสือดีๆหนังสือที่ดีสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับเราได้ ผู้นำในหลายๆประเทศได้อ่านเรื่องเรื่องของบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ทางการเมือง ผู้นำประเทศเหล่านั้นจึงได้สร้างแรงบันดาลใจในตัวเองขึ้น เขาเหล่านั้นจึงเกิดความต้องการที่จะเป็นผู้นำประเทศเหมือนกับชีวประวัติของผู้นำในหนังสือบ้าง 10.การเขียนเป้าหมายคือการสร้างภาพความฝัน ที่เราเองต้องการอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะตอนก่อนเข้านอน ในโลกนี้มีกฎแห่งการดึงดูด หากหมกมุ่นครุ่นคิดเรื่องใดเป็นประจำ ก็มักจะได้สิ่งนั้น ดังนั้นวิธีง่ายๆ จงคิดถึงมัน จึงฝันถึงมัน จงจินตนาการถึงเป้าหมายของเราบ่อยๆ แล้วชีวิตของคุณก็จะเดินทางไปสู่เป้าหมายหรือความฝันของตนเองได้สำเร็จในที่สุด “ฝันให้ไกล…แล้วไปให้ถึง”