หมวดหมู่อบรมสัมมนา

อบรมออนไลน์ Zoom พร้อมรับใบวุฒิบัตรฟรี หลักสูตร : กฎหมายแรงงานและการพิจารณาความผิดเพื่อลงโทษทางวินัย ในช่วงวิกฤตโควิดรอบ 2 !!! พร้อมให้คำปรึกษาผู้เข้าร่วมสัมมนา หลังการสัมมนา “ ฟรี ” ตลอดกาล ไม่มีค่าใช้จ่าย

มีค่าใช้จ่าย 1500 บาท

หัวข้อในการอบรม                                                                                                                                                                                                                       

1.       กรณีลูกจ้างสมัครงานแล้วไม่มาทำงานจะรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย กรณีผิดสัญญาต่อนายจ้างอย่างไร..?

2.       ตำแหน่งงานที่ นายจ้างมีสิทธิเรียก รับเงินประกันการทำงานตามกฎหมายมีตำแหน่งงานใดบ้าง..?

3.       นายจ้างทำสัญญาจ้าง-ออกระเบียบปฏิบัติหรือคำสั่ง ที่ไม่มีผลบังคับใช้ได้ตามกฎหมาย (เป็นโมฆะ) มีกรณีใดบ้าง..?

4.       นายจ้างมีสิทธิหักค่าจ้างลูกจ้างมีหักค่าอะไรบ้าง...ในกรณีลูกจ้างทำบันทึกข้อตกลงไว้มีขอบเขตการหักเพียงใด..?

5.       ทำสัญญาจ้างแรงงานปีต่อปี เมื่อครบสัญญาจ้าง 1 ปีแล้วมีการต่อสัญญาจ้างใหม่และเมื่อสิ้นสุดสัญญาฉบับสุดท้ายแล้วไม่มีการจ้างงานกันต่อไปอีก นายจ้างต้องจ่ายค่าอะไรบ้าง..?

6.       ทำสัญญาจ้างแรงงาตำแหน่งขับรถให้ผู้บริหารตกลงกันจ่ายค่าจ้างเป็นเดือนโดยไม่จ่ายค่าล่วงเวลาให้นายจ้างทำได้ไหม..เพราะอะไร..?

7.       พนักงานมาทำงาน สายบ่อยๆ กรณีนายจ้างมีนโยบายเลิกจ้างต้องปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างไร..?

8.       ประเภทลางานไม่ถูกระเบียบบ่อยๆ เช่น โทรลางาน -ไลน์ลางาน - ฝากเพื่อนลางาน-ชอบลางานย้อนหลัง จนเป็นอาจิณ ในกรณีหัวหน้างานยังไม่อนุมัติการลาก็หยุดงานไป ผู้บริหาร - HR. ลงโทษอะไรได้บ้าง..จะออกกฎเหล็กเพื่อแก้ปัญหาต้องจัดการอย่างไร..?

9.       ภายในปีชอบลาป่วยเพื่อเอายอด-ป่วยวันเดียว-ป่วยทุกอาทิตย์-ป่วยไม่จริง-ป่วยเท็จ ผู้บริหาร-HR.จะมีวิธีป้องกันอย่างไร

10.   รับลูกจ้างเข้าทำงานด้วยวาจา-ด้วยลายลักษณ์อักษร-บอกเลิกจ้างด้วยวาจา-ด้วยลายลักษณ์อักษร-ด้วยทางโทรศัพท์ - ด้วยทางไลน์ - ด้วยทางอีเมลย์ กรณีดังกล่าวนายจ้างได้ปฏิบัติต่อลูกจ้าง มีผลบังคับใช้ได้ตามกฎหมายแรงงาน หรือไม่เพราะอะไร..?

11.   กรณีลูกจ้างร้องขอให้นายจ้างสะสมเวลาทำงานในวันทำงานปกติวันละ 1 ชั่วโมง โดยนับเกินจากเวลาทำงานปกติ เพื่อสะสมไปหยุดในวันทำงานวันอื่นทำได้ไหม..เพราะอะไร..?

12.   มีนิสัยปากจัดชอบด่าทอเพื่อนร่วมงานหรือผู้บังคับบัญชาจนมีเพื่อนร่วมงานตั้งฉายาให้และชอบปฏิบัติตนผิดวินัยบ่อยๆจนเป็นอาจิณ หัวหน้างานปกครองไม่ได้อยากเลิกจ้าง ต้องจัดการอย่างไร..?

13.   กรณีลูกจ้างส่งข้อความด่าทอ นายจ้าง -หัวหน้างาน หรือ เพื่อนร่วมงานทางสื่อโซเชียล  เช่น ทางเฟสบุ๊ค-ทางไลน์ จนเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย-อับอาย-เสียชื่อเสียง เป็นความผิดลงโทษสถานใด..?

14.   นายจ้างมีความจำเป็นต้องยุบหน่วยงานตามสาขาต่างๆ จึงมีคำสั่งย้ายพนักงานเข้าทำงานในสำนักงานใหญ่ กรณีลูกจ้างไม่ประสงค์ย้ายตามจะมีความผิดขัดคำสั่งหรือไม่...และหรือลูกจ้างจะได้รับสิทธิตามกฎหมายแรงงานอย่างไร..?

15.   นายจ้างเปลี่ยนแปลงตำแหน่งงานถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง-เปลี่ยนแปลงสภาพการทำงานหรือไม่..เพราะอะไร..?

16.   นายจ้างมีข้อบังคับในการทำงานและมีระเบียบปฏิบัติไว้ว่าเมื่อนายจ้างตรวจสอบพบว่าลูกจ้างมีสารเสพติดประเภทหนึ่งในร่างกายของลูกจ้างนายจ้างมีสิทธิเลิกจ้าง กรณีนี้ทำได้หรือไม่..เพราะอะไร..?

17.   ลูกจ้างมีปัญหากันในเวลาทำงานได้ด่าทอ ต่อว่ากันอย่างเสียหาย หลังจากเลิกงานแล้วยังไปดักทำร้ายร่างกายเพื่อนร่วมงานนอกที่ทำงานอีก นายจ้างลงโทษทางวินัยอะไรได้บ้าง...เพราะเหตุเกิดนอกที่ทำงาน

18.   ลูกจ้างชายกระทำการล่วงเกินทางเพศลูกจ้างหญิงด้วยวาจา ทั้งยังทำท่าทางประกอบหลายครั้งจนลูกจ้างหญิงรู้สึกอาย ไม่อยากมาทำงานและ/หรือได้แจ้งหัวหน้างานเพื่อขอย้ายหน่วยงาน นายจ้างลงโทษอะไรได้บ้าง..?

19.   นายจ้างส่งลูกจ้างไปอบรมทำข้อตกลงกับลูกจ้างให้ไปอบรม 14 วัน เมื่อกลับมาต้องทำงานกับนายจ้างเป็นเวลา 3 ปี ถ้าไม่กลับมาหรือทำงานไม่ครบ 3 ปี ให้เสียเบี้ยวปรับ 3 เท่าของค่าใช้จ่าย สัญญาหรือข้อตกลง เช่นนี้ บังคับใช้ได้ตามกฎหมายหรือไม่...เพราะอะไร..?

20.   อาศัยตำแหน่งความเป็นลูกจ้าง แอบอ้าง เรียกเอา ผลประโยชน์จากบุคคลภายนอกเพื่อให้เข้ามาร่วมงานกับนายจ้าง จะมีความผิดตามกฎหมายแรงงานอย่างไร..?

21.   วันหยุดตามประเพณีได้กำหนดและประกาศไปแล้ว นายจ้าง - ลูกจ้าง ต้องการเปลี่ยนไปหยุดในวันอื่น (สลับวันหยุด) ผู้บริหาร - HR.ต้องดำเนินการอย่างไร..?

22.   จัดรถนำเที่ยวให้กับพนักงาน เพื่อไปพักผ่อนประจำปี - ค่าอาหาร - ค่าเครื่องดื่ม - ค่าที่พักนายจ้างออกให้ทั้งหมด กรณีมีพนักงานชกต่อยกันจนได้รับบาดเจ็บ นายจ้างมีสิทธิลงโทษตามระเบียบวินัย ได้หรือไม่  (เพราะเป็นสถานที่และนอกเวลาทำงานให้กับนายจ้าง)

23.   หลังเลิกงานนายจ้างจัดงานเลี้ยงประจำปีที่ร้านอาหารให้กับพนักงาน มีพนักงานเมาแล้วจำหน้ากันไม่ได้จึงชกต่อยกันในงานเลี้ยง นายจ้างมีสิทธิลงโทษตามระเบียบวินัยได้หรือไม่..? (เพราะเป็นสถานที่และนอกเวลาทำงานให้กับนายจ้าง)

24.   มีเอกสารจากกองบังคับคดี ให้นายจ้างหักค่าจ้างลูกจ้าง ต้องทำอย่างไร.. และเงินที่ลูกจ้างมีสิทธิถูกหักเข้ากองบังคับคดี เพื่อชดใช้หนี้ตามคำพิพากษาของศาลมีเงินอะไรบ้าง..?

25.   ลูกจ้างที่ไม่ได้รับค่าล่วงเวลาในเวลาทำงาน-ค่าทำงานในวันหยุด-ค่าล่วงเวลาในวันหยุดมีตำแหน่งงานใดบ้าง..พิจารณาจากอะไร..?

26.   ทำสัญญาจ้างกับลูกจ้างว่า เมื่อลูกจ้างออกจากงานก่อนกำหนด ลาออกไม่ถูระเบียบ หรือปฏิบัติงานไม่ถึงวันที่ระบุไว้ในหนังสือลาออก ลูกจ้าง ยินดีสละสิทธิไม่ขอรับเงินประกันการทำงานคืน สัญญาจ้างหรือข้อตกลงนี้ บังคับใช้ได้ตามกฎหมายหรือไม่..เพราะอะไร..?

27.   ในสัญญาจ้างระบุไว้ว่าในระหว่างเป็นลูกจ้างตามสัญญาจ้างหรือลูกจ้างออกจากงานไปแล้วภายในระยะเวลา 2 ปี ลูกจ้างจะไม่นำความลับทางการค้าของนายจ้างไปเปิดเผย หรือจะไม่ไปทำงานกับคู่แข่งทางการค้าของานายจ้าง กรณีลูกจ้างฝ่าฝืนจะมีความผิดหรือไม่..สัญญาจ้างบังคับใช้ได้ตามกฎหมายหรือไม่...เพราะอะไร..?

28.   ทำความเสียหายแล้วออกจากงานไป นายจ้างยึดเงินประกันการทำงาน - ยึดเงินค่าจ้าง - เพื่อชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น นายจ้างทำได้หรือไม่..? เพราะไร..?

29.   นายจ้าง ลูกจ้าง มีการเจรจาและตกลงกันแต่ไม่ได้ทำบันทึกผลการเจรจากันไว้จะมีผลทางกฎหมายหรือไม่..เพราะอะไร..?

30.   กรณีมีพนักงานร่วมกันชุมนุมกดดันนายจ้างเพื่อให้จ่ายค่าสวัสดิการตามต้องการ ผู้บริหาร - HR.หัวหน้างานจะเผด็จศึกกับปัญหาที่เกิดขึ้น หรือใช้เทคนิคให้ปัญหายุติลงได้อย่างไร..?

31.   ลูกจ้างลาออกจากงานเมื่อหนังสือลาออกไปถึงผู้บริหารที่เป็นผู้มีอำนาจทราบแล้วแต่ยังไม่อนุมัติการลาออกจะมีผลทางกฎหมาย   หรือยัง กรณีวันต่อมาลูกจ้างขอยกเลิกการลาออก กฎหมายให้สิทธิต่อนายจ้าง หรือต่อลูกจ้างอย่างไร..?

32.   กรณีลูกจ้างลาออก-วันลากิจได้รับค่าจ้าง -วันหยุดพักผ่อนประจำปี-วันหยุดที่สะสมไว้ ลูกจ้างจะได้รับสิทธิอย่างไร..?

33.    เมื่อลูกจ้างลาออกจากงานอยู่ไม่ครบ 30 วันถือว่าลูกจ้างผิดสัญญาจ้าง-ผิดข้อบังคับในการทำงาน ลูกจ้างจะชดใช้ค่าเสียหายอย่างไร..?

34.   พ้นสภาพจากการเป็นลูกจ้างก่อนวันจ่ายเงินโบนัสเพียง 1 วัน ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินโบนัสหรือไม่..เพราะประวัติการทำงาน..จำนวนวันที่จะได้รับเงินโบนัสได้กำหนดไว้ก่อนวันจ่าย ไว้แล้ว

35.   กรณีลูกจ้างออกจากงาน นายจ้างไม่ออกใบสำคัญแสดงการทำงานให้จะรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย ต่อลูกจ้างอย่างไร..?

36.   นายจ้างอนุมัติให้ลูกจ้างพ้นสภาพก่อนครบกำหนดในหนังสือลาออก โดยจ่ายค่าจ้างให้จนถึงวันสิ้นสุดสัญญาเป็นการเลิกจ้างหรือไม่..?

37.   กรณีนายจ้างได้กำหนดวันให้ลูกจ้างลาพักผ่อนและวันลากิจได้รับค่าจ้างอย่างแน่นอนแล้วและภายในปีลาให้หมด เมื่อลูกจ้างไม่ได้ใช้สิทธิลา นายจ้างมีหน้าที่ที่จะต้องจ่ายเป็นเงินแทนหรือไม่..เพราะอะไร..?

38.   กรณีลูกจ้างลาออกจากงาน - ถูกไล่ออก - ถูกปลดออก - หรือนายจ้างเลิกจ้าง กฎหมายกำหนดให้นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างและเงินประกันการทำงานให้กับลูกจ้างภานในกี่วัน..?

39.       เมื่อลูกจ้างออกจากงาน - ลาออก - ละทิ้งหน้าที่ - สิ้นสุดระยะเวลาการจ้าง -ไม่ผ่านทดลองงาน - เกษียรงานตามโครงการ - ถูกไล่ออก - ปลดออก  กรณีดังกล่าว ลูกจ้างจะได้รับสิทธิการประกันการว่างงาน จากสำนักงานประกันสังคมอย่างไร..?

40.   องค์ประกอบที่ นายจ้าง ผู้บริหาร หรือหัวหน้างานพิจารณาความผิด เป็นกรณีร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรง พิจารณาจากอะไร.. เพราะจะมีผลต่อการออกหนังสือเตือน - หนังสือสั่งพักการทำงาน - เลิกจ้างเพื่อให้สิ้นสภาพจากการเป็นลูกจ้าง

·    ถาม - ตอบ - แนะนำ

·    ผู้เข้าร่วมสัมมนา - นายจ้าง - ผู้บริหาร - HR. - บุคคลทั่วไป

·    ให้คำปรึกษาผู้เข้าร่วมสัมมนา หลังการสัมมนา “ ฟรี ” ตลอดกาล ไม่มีค่าใช้จ่าย


หน่วยงาน/บริษัท :

บจก.ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

ชื่อผู้ติดต่อ :

จิ๋ว

โทร :

089-606-0444,090-645-0992

ข้อมูลผู้ลงประกาศ

หมายเลขประกาศ

10641

ลงประกาศวันที่

26 มกราคม 2564 เวลา 12:12 น.

หมวดหมู่หลัก

อบรม กฎหมายธุรกิจ-ภาษี

ลักษณะงาน

มีค่าใช้จ่าย

ราคา

1500

หน่วยงาน/บริษัท

บจก.ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

ชื่อผู้ติดต่อ

จิ๋ว

เบอร์โทรศัพท์

089-606-0444,090-645-0992

สัมมนาที่คุณอาจสนใจ

บทความน่าสนใจ

สวมวิญญาณนักคิด ความสำเร็จอยู่ไม่ไกล

สวมวิญญาณนักคิด ความสำเร็จอยู่ไม่ไกล

1.คิดเพื่อเริ่มการคิดเพื่อเริ่ม คือ เวลาคุณต้องการใช้ความคิดเพื่อสร้างระโยชน์ ต้องเริ่มจากการคิดให้เป็น ต่อมาต้องวิเคราะห์ความเป็นไปได้ว่า สิ่งที่จะทำนั้นจะสำเร็จไหม ซึ่งนับเป็นกระบวนการคิดขั้นแรกที่ทุกคนควรรู้ 2.หาไอดอลเมื่อคุณอยากเป็นนักคิด แล้วประสบความสำเร็จ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ลองหาไอดอลคนที่เป็นนักคิด นักสร้างสรรค์ผลงานดู เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน แล้วคุณก็จะถูกสวมวิญาณนักคิดเอง 3.ไม่ลอกผลงานใครนักคิดที่ดี ห้ามลอกผลงานใคร เพราะนักคิดต้องรู้จักสร้างสรรค์งานด้วยตัวเอง จะได้ประสบความสำเร็จอย่างน่าภาคภูมิใจ ที่สำคัญส่งผลให้คนอื่นเชิดชูคุณจากใจจริงอีกด้วย 4.หาจินตนาการจินตนาการ คือ หนทางนำไปสู่ความสำเร็จ ดังนั้น วิธีสร้างจินตนาการง่ายๆ เลยคุณต้องลองวาดฝันว่า คุณอยากทำอะไร ต้องการประสบความสำเร็จด้านไหน แล้วตัวเองมีความถนัดเรื่องอะไร โดยต้องนำทั้งหมดมารวมกันเพื่อสร้างจินตนาการนั้นออกมา แล้วคุณก็จะเห็นลู่ทางในการลงมือทำเอง 5.ออกค้นหาการออกค้นหาสามารถให้อะไรคุณได้มากเลยทีเดียว ทั้งความรู้ แนวคิดใหม่ๆ จินตนาการ ความสร้างสรรค์ และอีกมากมาย ดังนั้น การออกค้นหาสิ่งที่ตัวเองต้องการบนโลกกว้างก็ช่วยได้เยอะเช่นกัน 6.ลงมือทำการลงมือทำทั้งๆ ที่ตัวเองยังไม่มีความรู้ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก หรือเรื่องน่าอาย เพราะการลงมือทำนี่แหละช่วยให้คุณค้นพบความคิดใหม่ๆ แนวทางใหม่ ที่สำคัญอาจทำให้คุณมรประสบการณ์สร้างความสำเร็จได้โดยเร็วอีกด้วย 7.หาเวลาว่างให้ตัวเองการมีเวลาว่างเพื่อคิดอะไรบ้างอย่างในสถานที่ที่เงียบสงบ สะดวกต่อการคิดทบทวนเรื่องต่างๆ ก็สามารถช่วยให้ความคิดไหลลื่น และแตกฉานได้โดยง่าย ดังนั้น ลองหาเวลาว่าง และสถานที่สงบๆ คิดหาความก้าวหน้าดู แล้วคุณจะพบจุดจบแห่งความสำเร็จอย่างแน่นอน 8.อ่านให้เยอะการอ่านให้เยอะๆ คือ การศึกษาความรู้จากตำรา หรือแหล่งความรู้ทั่วไป ซึ่งการที่คุณมีความรู้ มักจะช่วยให้คุณสามารถคิดและวิเคราะห์ความสำเร็จได้ง่ายขึ้น และไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกมากมาย เพียงใช้ความรู้ทั้งหมดมาปฏิบัติให้สำริดผลก็เพียงพอ 9.หาตัวช่วยตัวช่วยที่ดี คือ ช่วยคิด ช่วยวิเคราะห์ และช่วยไตร่ตรอง เพราะบางทีความคิดคุณคนเดียวอาจไม่ใช่ความคิดที่ดีที่สุด จึงต้องมีตัวช่วยอย่างยิ่ง เพื่อให้เกิดหลายแนวความคิดนั่นเอง 10.ดูแล้ววิเคราะห์การวิเคราะห์ผลงานคนอื่น ช่วยให้สมองเกิดกลไก และมีการทำงานที่ดีขึ้น อีกทั้ง ช่วยให้คุณสามารถนำความรู้จากการวิเคราะห์นี้ไปต่อยอดความสำเร็จของตัวเองได้ และเป็นวิธีที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องการประสบความสำเร็จในเรื่องของงาน หรือการดำรงชีวิตของตนเอง

“ฟังสัมมนาอย่างไร ให้ก้าวหน้า!!”

“ฟังสัมมนาอย่างไร ให้ก้าวหน้า!!”

“ฟังสัมมนาอย่างไร ให้ก้าวหน้า!!”“ฟังสัมมนาอย่างไร ให้ก้าวหน้า” ลักษณะของงานสัมมนาทั่วไปเป็นกิจกรรมที่แบ่งออกเป็น 2 วิธี คือ “การประชุม” และ “วิธีการสอน” >>เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็น>>หาข้อสรุปหรือข้อเสนอแนะในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง>>หาทางออกให้กับปัญหาแต่สำหรับใครที่อยากประสบความสำเร็จต้องฟัง แล้ววิเคราะห์ และทดลอง ดังนั้น เรามาดูกันว่า ฟังสัมมนาอย่างไร ให้มีความรู้ และก้าวหน้าได้อย่างสำเร็จ1.ฟังอย่างมีจุดมุ่งหมายโดยทั่วไปจุดมุ่งหมายของการฟังมี 3 อย่าง คือ ฟังเพื่อความเพลิดเพลิน , ฟังเพื่อความรู้ , ฟังเพื่อให้ได้คติชีวิตหรือความจรรโลงใจ ดังนั้น เมื่อใครที่เข้าสัมมนาแล้วมีจุดมุ่งหมายคือ “ความสำเร็จ”ต้องตั้งใจฟังเพื่อความรู้ และตักตวงความรู้จากการฟังให้มากที่สุด ถ้าความจำไม่ค่อยดี ก็ใช้วิธีจดบันทึก เพื่อเก็บความรู้ให้มากที่สุด 2.มีความพร้อมการที่คุณมีความพร้อม ต้องมีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ตลอดจนมีความพร้อมทางสติปัญญา พร้อมทางร่างกาย    เช่น   สุขภาพทางร่างกายเป็นปกติ ไม่เหนื่อย ไม่อิดโรย และต้องพร้อมทางจิตใจด้วย เพื่อให้เวลาฟังสัมมนาจะได้มีสติฟังอย่างเข้าใจ แล้วทุกอย่างจะดีเอง 3.ฟังโดยมีสมาธิสมาธิ คือ สิ่งที่สำคัญสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ซึ่งการฟังโดยมีสมาธิ หมายถึง ฟังด้วยความตั้งใจจดจ่ออยู่กับเรื่องที่ฟัง ไม่ปล่อยจิตใจให้เลื่อนลอยไปที่อื่น ไม่เช่นนั้น ความรู้ที่คุณจะได้รับกลายเป็นศูนย์อย่างแน่นอน 4.กระตือรือร้นใครที่ฟังสัมมนาความรู้มีความกระตือรือร้น มักจะเป็นผู้ฟังที่มองเห็นประโยชน์หรือเห็นคุณค่า จึงสนใจฟังเรื่องนั้นจริงๆ ซึ่งความกระตือรือร้นส่งผลดี ทำให้จิตใจ และความตั้งใจที่จะเก็บเกี่ยวความรู้ได้มากที่สุด ไม่เพียงเท่านี้ ยังทำให้สมองเปิดรับความรู้ได้จำนวนมากอีกด้วย 5.ไม่มีอคติคนที่มีอคติ ย่อมทำให้จิตใจร้อน ปิดการรับฟัง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อตัวคุณเลย เพราะถ้าหากต้องการฟังสัมมนาให้เกิดความรู้ และความเข้าใจไม่ว่าคุณจะมีอคติอะไรก็ตามแต่ ต้องปล่อยวาง และแยกะแยะ มุ่งศึกษาหาความรู้ดีกว่า ที่สำคัญการไม่มีอคติต้องพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วน เพื่อไม่ให้เป็นโทษแก่ผู้อื่น 6.มีมารยาทในการฟังมารยาทในการฟังที่ดี ต้องรู้จักเคารพผู้พูด และคนรอบข้าง โดยการแสดงความกระตือรือร้นที่จะฟัง ตั้งคำถามตามความเหมาะสม ยอมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป และต้องไม่ใช้อารมณ์หรือนิสัยส่วนตัวมาตัดสินเรื่องต่างๆ ในห้องสัมมนาด้วย 7.มีความประสงค์ที่แน่นอนเมื่อคุณเลือกที่จะเข้าสัมมนาเพื่อไปหาความรู้ นั่นคือความประสงค์ของคุณ ดังนั้น ต้องพยายามฟังให้ได้ตามความจุดหมายมากที่สุด โดยใช้วิจารณญาณเลือกฟังแต่เรื่องที่ควรฟังและหลีกเลี่ยงเรื่องที่ไม่เหมาะสม รู้จักแยกแยะส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงและความคิดเห็น รู้จักใช้เหตุผลประกอบในการแสดงความเห็น โดยต้องรู้จักใช้ศิลปะในการฟังด้วย 8.แยกแยะข้อเท็จจริงเมื่อฟังสัมมนาความรู้แล้ว อย่าเชื่อไปทุกเรื่องที่ได้ฟังมา คุณต้องนำข้อมูลนั้นมาพิจารณาให้เห็นถึงข้อเท็จจริง ถ้าข้อมูลไหนที่ไม่แน่ใจต้องไปค้นหาคำตอบ หรือยกมือเพื่อสอบถามให้ได้รายละเอียดที่แน่ชัด เป็นต้น 9.ดูเจตนาของผู้พูดผุ้ฟังที่ดี ที่ต้องการได้ความรู้จากการฟังสัมมนา เพื่อใช้เป็นแนวทางหาหนทางความสำเร็จ ต้องรู้จักดูเจตนาของผู้พูด เพราะบางครั้งผู้พูดอาจบอกเล่า แถลงการณ์รายงานเรื่องราวต่างๆหรือพูดนอกเรื่องไปต่างๆ นานา ฉะนั้น ผู้ฟังต้องพิจารณาถึงข้อมูลที่มีสาระกับไม่มีสาระให้ถูกต้อง เพื่อการนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 10.ความสำคัญของเรื่องที่พูดผู้ฟังต้องวิเคราะห์ถึงความสำคัญและความเป็นมาของเรื่องที่ผู้พูดให้ดีๆ ว่าผู้พูดได้แสดงความสำคัญเรื่องนั้นๆ อย่างไรบ้าง และมีประโยชน์ต่อตัวคุณเองมากน้อยแค่ไหนเพราะการที่เราจดทุกรายละเอียดที่พูด อาจทำให้ข้อมูลที่สำคัญหล่นหลายไปได้ จึงควรแยะความสำคัญของเรื่องที่ฟังด้วย ดังนั้น คุณเองก็ต้องย้อนกลับไปอ่านข้อที่ 1 ด้วยว่าตัวคุณเองมีจุดมุ่งหมายอย่างไรกับการเข้าฟังสัมมนาในครั้งนี้

10 คุณสมบัติของการเป็นผู้นำ

10 คุณสมบัติของการเป็นผู้นำ

อยากประสบความสำเร็จต้องมีสิ่งนี้เป็นพื้นฐาน ภาวะการเป็นผู้นำไม่ใช่ว่าหัวหน้างาน ผู้จัดการเท่านั้นที่ต้องมีแต่เป็นสิ่งที่ทุกคนควรจะมี เพราะมีความสำคัญต่อการทำงานมากๆผู้นำที่ยอดเยี่ยม ต้องมีวิสัยทัศน์ มีความกล้าหาญ ความซื่อสัตย์ ความอ่อนน้อมถ่อมตน1.เห็นคุณค่าผู้นำที่ชาญฉลาดจะให้ความสำคัญกับทีมและบุคคล เพราะตระหนักว่าความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ก็เพราะความช่วยเหลือของทีม ยิ่งไปกว่านั้นการเห็นคุณค่ายังช่วยให้กำลังใจพัฒนาความเชื่อมั่นและสร้างจุดแข็งอีกด้วย 2.มั่นใจความไว้วางใจและความเชื่อมั่นในการเป็นผู้นำเป็นตัวบ่งชี้ ความน่าเชื่อถือและความพึงพอใจของพนักงาน ผู้นำที่ดีต้องไม่กลัวที่จะถูกท้าทายด้วยอุปสรรคปัญหาใหม่ๆ 3.ความเห็นอกเห็นใจผู้นำที่ดีจะใช้ความเห็นอกเห็นใจในการรับรู้ ถึงความต้องการของผู้ที่พวกเขาเป็นผู้นำและตัดสินใจเลือกแนวทางที่จะเป็นประโยชน์ สูงสุดแก่บุคคลและทีมงาน 4.กล้าหาญผู้นำต้องกล้าที่จะตัดสินใจในทันที ไม่แสดงท่าทีลังเลหรือขาดความมั่นใจ ความกล้าหาญของผู้นำจะสร้างขวัญกำลังใจให้กับลูกทีมได้ดี 5.มีความยืดหยุ่นผู้นำที่ดีสามารถยืดหยุ่นได้ พวกเขาปรับเปลี่ยนตนเอง ตามสถานการณ์บริบทและสถานการณ์ที่พวกเขาพบ พวกเขายินดีต้อนรับแนวคิดใหม่ๆและยอมรับ การเปลี่ยนแปลง 6.ซื่อสัตย์ผู้นำที่ฉลาดไม่กลัวที่จะสื่อสารความจริงกับคนของพวกเขา ความซื่อสัตย์เป็นเรื่องของความสุจริต ที่จะสร้างความไว้วางใจ ความซื่อสัตย์ทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น 7.หนักแน่นไม่กลัวปัญหาที่ต้องเผชิญ มีสติและรู้เสมอว่าทุกปัญหา ต้องผ่านไปได้เสมอมีจุดยืนของตัวเองกล้าหาญที่จะยืนหยัด รักษาความถูกต้อง แม้จะเจอกับอุปสรรค ผู้นำต้องหนักแน่นและไม่ท้อถอยง่ายๆ ไม่งั้นคุณก็ป็นเพียงผู้ที่เกิดมาเพื่ออยู่ ภายใต้บังคับบัญชาเท่านั้น 8.ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดผู้นำที่ดีต้องมีความเป็นกลาง ไม่อคติกับผู้ร่วมงาน เพราะอาจส่งผลให้คนในทีมเขม่นกันเอง ประสิทธิภาพของงานก็ด้อยลงเพราะทีมขาดความสามัคคี 9.ตอบสนองผู้นำที่ดีจะตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใต้บังคับบัญชา รู้จักปรับพฤติกรรมให้เหมาะสมกับสถานการณ์มากที่สุด คอยรับฟังทีมและให้ความสำคัญกับทีม 10.นอบน้อมความอ่อนน้อมถ่อมตนไม่ได้หมายความว่าคุณอ่อนแอ หรือไม่มั่นใจในตนเอง แต่ชี้ให้เห็นว่าคุณมีความมั่นใจ ในตนเองและมีความตระหนักในตนเองในการรับรู้ คุณค่าของผู้อื่น

10 เคล็ดลับสร้างแรงบันดาลใจสู่ความสำเร็จ

10 เคล็ดลับสร้างแรงบันดาลใจสู่ความสำเร็จ

1.ทำสิ่งที่ไม่เคยทำไปในที่ที่ไม่เคยไป เมื่อไหร่ที่ชีวิตได้ลองทำหรือได้ไปในสถานที่แปลกใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจแล้วล่ะก็ ความเบื่อหน่าย อาการเนือยๆ มันจะหายไปภายในพริบตาเดียว คุณจะรู้สึกว่าชีวิตยังมีอะไรที่น่าค้นหาอีกเยอะ แล้วแรงบันดาลใจจะหลั่งไหลพรั่งพรูเข้ามาอย่างไม่ขาดสายเลยทีเดียว 2.มองโลกในแง่ดีคนมองโลกในแง่ดี มักมีโอกาสดีกว่าคนอื่น เพราะเมื่อมองทุกอย่างเป็นบวก ก็ช่วยให้มีสุขภาพจิตดี ความคิดโปร่งใส และทำให้เกิดจินตนาการและแรงบันดาลใจที่ดีเกิดขึ้นมาได้ 3.ควรสร้างทัศนะคติแบบ “ฉันทำได้”นี่คือหนึ่งในทัศนะคติที่สำคัญที่สุดในการที่จะประสบความสำเร็จ คนเรามีโอกาสเข้ามาในชีวิตมากมายแต่หลาย ๆ คนก็ได้ปฏิเสธโอกาสเหล่านั้นด้วยคำว่า “ทำไม่ได้” ซึ่งทำให้หลายๆ คนล้มเหลว เมื่อเราคิดว่า “เราทำได้” ร่างกายทุกอย่างก็จะเกิดการตอบสนองต่อความคิดนี้และเราก็จะเห็นเราสามารถทำสิ่งต่างๆได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดแรงบันดาลใจที่จะทำสิ่งต่างๆให้ประสบความสำเร็จ 4.รู้จักบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพและชาญฉลาดทุกคนในโลกนี้มีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากันหมด แต่สิ่งที่ทำให้เกิดความแตกต่างคือ ใครใช้เวลาที่มีอยู่นั้นได้คุ้มค่ากว่ากัน ได้ทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับเป้าหมายของตนหรือไม่ เมื่อตระหนักได้ตามนี้จะทำให้รู้ว่าควรมุ่งมั่นต่อเป้าหมายของตนและดำเนินชีวิตได้ดียิ่งขึ้น 5.ความผิดพลาดมีไว้ให้เรียนรู้ไม่ได้มีไว้ให้เจ็บช้ำหรือโศกเศร้าเสียใจ แน่นอนว่าเราทุกคนไม่สามารถห้ามการเสียใจหรือโศกเศร้าเมื่อเกิดความผิดพลาดได้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ เมื่อรู้ว่าผิดพลาดแล้วให้คิดหาสาเหตุของความผิดพลาดนั้น แล้วนำมาปรับปรุงแก้ไขไม่ให้เกิดขึ้นได้อีก 6.จดบันทึกคนประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะใช้เวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมงต่อวัน ในการคิดเพื่อที่จะคิดอย่างมีประสิทธิภาพ การจดบันทึกจะช่วยให้เราจำสิ่งๆนั้นได้ดีขึ้นหลายเท่า นอกจากนี้คุณยังสามารถจดบันทึกเรื่องราวต่างๆ เช่น ความสำเร็จ ความล้มเหลว ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับเราได้เมื่อเราได้ย้อนกลับมาอ่านอีกครั้งหนึ่ง 7.การหาแบบอย่างหรือบุคคลตัวอย่างโดยเฉพาะบุคคลที่ประสบความสำเร็จหรือบุคคลที่เราอยากจะมีชีวิตแบบเขาก็เป็นอีกทางหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจขึ้นภายในตนเอง ศึกษาว่าเขามีแนวคิด แนวปฏิบัติอย่างไรจึงประสบความสำเร็จเราก็สามารถนำเอามาสร้างแรงบันดาลใจเพื่อต้นแบบสู่ความสำเร็จของเราได้ 8.มีเป้าหมายและวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนก่อนจะพิชิตเป้าหมาย ต้องรู้ก่อนว่า เป้าหมายของเรานั้นคืออะไร เป้าหมายที่ชัดเจนทำให้เรารู้ว่าต้องการจะเป็นอะไร ผู้ที่ไม่มีเป้าหมายในชีวิตก็เหมือนคนที่ไม่มีแรงผลักดัน ขาดแรงจูงใจ และจะไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต 9.การอ่านหนังสือดีๆหนังสือที่ดีสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับเราได้ ผู้นำในหลายๆประเทศได้อ่านเรื่องเรื่องของบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ทางการเมือง ผู้นำประเทศเหล่านั้นจึงได้สร้างแรงบันดาลใจในตัวเองขึ้น เขาเหล่านั้นจึงเกิดความต้องการที่จะเป็นผู้นำประเทศเหมือนกับชีวประวัติของผู้นำในหนังสือบ้าง 10.การเขียนเป้าหมายคือการสร้างภาพความฝัน ที่เราเองต้องการอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะตอนก่อนเข้านอน ในโลกนี้มีกฎแห่งการดึงดูด หากหมกมุ่นครุ่นคิดเรื่องใดเป็นประจำ ก็มักจะได้สิ่งนั้น ดังนั้นวิธีง่ายๆ จงคิดถึงมัน จึงฝันถึงมัน จงจินตนาการถึงเป้าหมายของเราบ่อยๆ แล้วชีวิตของคุณก็จะเดินทางไปสู่เป้าหมายหรือความฝันของตนเองได้สำเร็จในที่สุด “ฝันให้ไกล…แล้วไปให้ถึง”