หมวดหมู่อบรมสัมมนา

ศูนย์บริการวิชาการ มศว. จัดอบรม โครงการอบรม 21st Century Leadership: Concept & Experience # 3

มีค่าใช้จ่าย 16900 บาท

1.หลักการและเหตุผล

ผู้นำที่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่หมายถึงบุคคลที่ถูกกำหนดว่าเป็นผู้ไม่มีจุดอ่อนเลย  แต่ถูกกำหนดจากการที่มีจุดแข็งที่ชัดเจน การพัฒนาภาวะผู้นำในปัจจุบัน จึงเน้นความสำคัญไปที่การดึงศักยภาพหรือจุดแข็งที่มีอยู่ในตัวของบุคลากรออกมาใช้ในการทำงานทุกวัน  และ การที่จะเป็นผู้นำในศตวรรษที่ 21 จะต้องมีปัจจัยความสำเร็จหลายประการที่จะสนับสนุนเสริมสร้างจุดแข็งและช่วยให้ผู้นำเหล่านี้ทำงานรับผิดชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นศูนย์บริการวิชาการ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จึงได้จัดการอบรม 21st Century Leadership: Concept & Experience ขึ้นเพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เรียนรู้ถึงการพัฒนาตนเองในเรื่องบทบาทหน้าที่การเป็นผู้นำและบริหารจัดการองค์กรในยุคที่มีสภาวะการเปลี่ยนแปลงสูง เพื่อสามารถนำไปปรับใช้ในการทำงานจริงอย่างได้ผลสัมฤทธิ์

2.วัตถุประสงค์

1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเรียนรู้และเข้าใจในหลักภาวะผู้นำ และแนวทางพัฒนาภาวะผู้นำในตนเอง โดยเน้นกรอบการพัฒนาเพื่อสร้างความเข้าใจ ฝึกฝนทักษะและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในเรื่องสำคัญๆ ได้แก่ การพัฒนาภาวะผู้นำในตนเอง  เป็นผู้นำที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีการคิดเชิงกลยุทธ์ รู้จักบริหารงานบริหารทีมอย่างมีประสิทธิภาพ

 2.  เพื่อให้ผู้เข้าอบรม เรียนรู้ทักษะ เทคนิคต่างๆ ในการบริหารงาน และสร้างภาวะผู้นำที่ประสบความสำเร็จ

3. คุณสมบัติผู้เข้ารับการอบรม

ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ทุกสาขา หรือผู้ที่อยู่ในสายการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง

4. กลุ่มเป้าหมาย

หัวหน้างาน ผู้บริหารในทุกระดับ พนักงาน และบุคคลทั่วไปที่สนใจในการพัฒนาภาวะผู้นำ

5. โครงสร้างหลักสูตร

ประกอบด้วยหลักสูตรที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสิ้น 8 วิชา 24 ชั่วโมง ดังนี้

1. Leadership Thinking การพัฒนาระบบความคิดสำหรับผู้บริหาร (3 ชั่วโมง)

เข้าใจถึงความจำเป็น และประโยชน์ของการคิดอย่างเป็นระบบ รู้จักหลักในการพัฒนาระบบความคิด และการคิดในรูปแบบต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและความสามารถในการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ

บรรยายโดย : ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์
นักวิชาการอาวุโส (Senior Fellow) มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

ที่ปรึกษาประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)

 2. Managing Generations in the Workplace การบริหาร Generations ที่แตกต่าง (3 ชั่วโมง)

รู้จักพนักงานในแต่ละช่วงอายุ เข้าใจบุคลิกและลักษณะนิสัย รวมทั้งเรียนรู้การบริหารจัดการ

เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาช่องว่างระหว่างวัยของพนักงาน ซึ่งกำลังเป็นปัญหายอดฮิตใน

ปัจจุบัน 

บรรยายโดย : ดร.ณัฐวุฒิ พงศ์สิริ

ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายทรัพยากรบุคคลและพัฒนาองค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย

 3. Leadership Development แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำ (3 ชั่วโมง)

เรียนรู้แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำในตนเอง รวมไปถึงเข้าใจในความแตกต่างของแต่ละบุคคล รู้วิธีการและเทคนิคในการบริหารจัดการคน การบริหารทีมและการสื่อสารอย่างผู้นำ

บรรยายโดย :  ดร.สมสิทธิ์ มีแสงนิล

อาจารย์ / ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาบุคลากร ศูนย์บริการวิชาการมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

 4.Team Leadership ภาวะผู้นำในการบริหารทีม (3 ชั่วโมง)

แบ่งปันประสบการณ์ตรงจากผู้บริหารทีมมืออาชีพ เรียนรู้ความสำคัญของภาวะผู้นำในการ

บริหารทีม รวมทั้งแนวทางการบริหารทีมเพื่อนำไปสู่ทีมที่แข็งแกร่งและประสบความสำเร็จใน

สงครามธุรกิจ

บรรยายโดย : คุณสิทธิพิทักษ์ สินโสภณเกษม

ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารช่องทางจำหน่าย บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)

 5.The Secret of Leadership Power การสร้างภาวะผู้นำที่ประสบความสำเร็จ (3 ชั่วโมง)

เรียนรู้พลังอำนาจ 3 ประการที่จะทำให้ผู้นำประสบความสำเร็จ เน้นเรื่องการพัฒนาจิตใจ Mind Power การเข้าใจตนเอง บุคลิกภาพ การใช้ศักยภาพอย่างเต็มเปี่ยม Positive Thinking ทัศนคติและการบริหารอารมณ์

บรรยายโดย : ดร.วนิดา พลเพช

วิทยากร ที่ปรึกษา โค้ชด้านการพัฒนาภาวะผู้นำและการพัฒนาองค์กร

6. Leadership for Coaching ผู้นำกับการสอนงาน (3 ชั่วโมง)

เรียนรู้ทักษะการสอนงานเพื่อการพัฒนาทีม ไม่ว่าจะเป็นการดึงศักยภาพของทีมงานในการ

เรียนรู้หรือการสร้างทัศนคติที่ดีต่อองค์กร ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถและภาวะความเป็นผู้นำ

ของผู้บริหารในยุคปัจจุบันที่มีหน้าที่ในการสร้างความสำเร็จอย่างยั่งยืน

บรรยายโดย : คุณสิทธิกร ดิเรกสุนทร

ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส และผู้บริหารฝ่าย ฝ่ายบริการจัดการทางการเงิน 1 ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

7. Creativity and Leadership ภาวะผู้นำกับความคิดสร้างสรรค์ (3 ชั่วโมง)

เรียนรู้ถึงความสำคัญและแนวทางการใช้ความคิดสร้างสรรค์ บทบาทและหน้าที่ที่ผู้นำควรมี

เพื่อนำพาองค์กรสู่ความสำเร็จ จากประสบการณ์ของผู้ประกอบการมืออาชีพที่พลิกโฉม

องค์กรและแบรนด์สินค้าจากยุคอดีตสู่ปัจจุบัน

บรรยายโดย : คุณรวิศ หาญอุตสาหะ

 

กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด

8. Strategic Management : The lesson of experience ผู้นำกับการบริหารเชิงกลยุทธ์: บทเรียนจากประสบการณ์ (3 ชั่วโมง)

แบ่งปันประสบการณ์จากมุมมองของผู้บริหารและผู้นำซึ่งสะท้อนให้เห็นปัจจัยต่างๆที่เข้ามากระทบในการบริหารงาน รวมถึงเทคนิคการบริหารงานอย่างมีกลยุทธ์ โดยเริ่มตั้งแต่การวางแผนอย่างมีขั้นตอน การตัดสินใจอย่างมีชั้นเชิง และการสื่อสารในองค์กรที่ชัดเจน เพื่อนำสู่ผลลัพธ์การปฏิบัติงานที่ยอดเยี่ยม

บรรยายโดย : คุณอรรถ อรุณรัตนพงษ์

รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานภูมิภาค 1 บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

6.เวลาในการอบรม

วันที่ 6-18 มิถุนายน 2558 อบรมทุกวันอังคาร , พฤหัส เวลา 18.00-21.00 น. และเสาร์ เวลา 9.00-16.00น. รวมระยะเวลาการอบรมทั้งสิ้น 24 ชั่วโมง

7.สถานที่อบรม

ชั้น 15 อาคารบริการ ศาสตราจารย์ ม.ล. ปิ่น มาลากุล (อาคาร300ล้าน) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

8.เกณฑ์การประเมินผล

ผู้ที่ผ่านการอบรมจะต้องเข้าอบรมไม่น้อยกว่า 80 % ของเวลาที่กำหนด จึงจะได้รับวุฒิบัตรจากศูนย์บริการวิชาการ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

9.ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

ผู้เข้าอบรมได้ความรู้ แนวคิดทางด้านการพัฒนาภาวะผู้นำ และการปรับตัวต่อภาวการณ์ในยุคปัจจุบัน ตลอดจนนำแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำที่ได้ไปปรับใช้ให้เหมาะกับธุรกิจของตนเองในอนาคต

10.ค่าธรรมเนียมการอบรม

16,900 บาท (ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มและไม่มีหัก ณ ที่จ่ายใดๆ)

ทั้งนี้ได้รวมค่าสถานที่ ค่าเอกสารประกอบการบรรยายและอาหารแล้ว

11.การสมัครและชำระเงิน

ท่านที่สนใจสามารถสำรองที่นั่งได้โดยการแฟกซ์ใบสมัครมาที่ 02-530-9782

และชำระเงินได้โดยการโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์

ชื่อบัญชี ศูนย์บริการวิชาการ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (บัญชีหลัก)

ธนาคารกรุงไทย สาขา มศว ประสานมิตร เลขที่บัญชี 982-4-14110-3

หลังจากชำระเงินเรียบร้อย กรุณาแฟกซ์หลักฐานพร้อมระบุชื่อองค์กร/ผู้อบรม เพื่อยืนยันการสมัครอีกครั้ง

ดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ 

http://cas.swu.ac.th/uploads/download/thumb_20.pdf

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel: 0-2530-9781 , 094-441-2277

E-mail : [email protected]

โทรสาร 02-530-9782


หน่วยงาน/บริษัท :

ศูนย์บริการวิชาการ มศว.

ชื่อผู้ติดต่อ :

Khun Nutnicha

โทร :

02-5309781

ข้อมูลผู้ลงประกาศ

หมายเลขประกาศ

1961

ลงประกาศวันที่

21 เมษายน 2558 เวลา 07:28 น.

หมวดหมู่หลัก

อบรม การบริหารจัดการ-กลยุทธ์ธุรกิจ

ลักษณะงาน

มีค่าใช้จ่าย

ราคา

16900

หน่วยงาน/บริษัท

ศูนย์บริการวิชาการ มศว.

ชื่อผู้ติดต่อ

Khun Nutnicha

เบอร์โทรศัพท์

02-5309781

สัมมนาที่คุณอาจสนใจ

บทความน่าสนใจ

สวมวิญญาณนักคิด ความสำเร็จอยู่ไม่ไกล

สวมวิญญาณนักคิด ความสำเร็จอยู่ไม่ไกล

1.คิดเพื่อเริ่มการคิดเพื่อเริ่ม คือ เวลาคุณต้องการใช้ความคิดเพื่อสร้างระโยชน์ ต้องเริ่มจากการคิดให้เป็น ต่อมาต้องวิเคราะห์ความเป็นไปได้ว่า สิ่งที่จะทำนั้นจะสำเร็จไหม ซึ่งนับเป็นกระบวนการคิดขั้นแรกที่ทุกคนควรรู้ 2.หาไอดอลเมื่อคุณอยากเป็นนักคิด แล้วประสบความสำเร็จ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ลองหาไอดอลคนที่เป็นนักคิด นักสร้างสรรค์ผลงานดู เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน แล้วคุณก็จะถูกสวมวิญาณนักคิดเอง 3.ไม่ลอกผลงานใครนักคิดที่ดี ห้ามลอกผลงานใคร เพราะนักคิดต้องรู้จักสร้างสรรค์งานด้วยตัวเอง จะได้ประสบความสำเร็จอย่างน่าภาคภูมิใจ ที่สำคัญส่งผลให้คนอื่นเชิดชูคุณจากใจจริงอีกด้วย 4.หาจินตนาการจินตนาการ คือ หนทางนำไปสู่ความสำเร็จ ดังนั้น วิธีสร้างจินตนาการง่ายๆ เลยคุณต้องลองวาดฝันว่า คุณอยากทำอะไร ต้องการประสบความสำเร็จด้านไหน แล้วตัวเองมีความถนัดเรื่องอะไร โดยต้องนำทั้งหมดมารวมกันเพื่อสร้างจินตนาการนั้นออกมา แล้วคุณก็จะเห็นลู่ทางในการลงมือทำเอง 5.ออกค้นหาการออกค้นหาสามารถให้อะไรคุณได้มากเลยทีเดียว ทั้งความรู้ แนวคิดใหม่ๆ จินตนาการ ความสร้างสรรค์ และอีกมากมาย ดังนั้น การออกค้นหาสิ่งที่ตัวเองต้องการบนโลกกว้างก็ช่วยได้เยอะเช่นกัน 6.ลงมือทำการลงมือทำทั้งๆ ที่ตัวเองยังไม่มีความรู้ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก หรือเรื่องน่าอาย เพราะการลงมือทำนี่แหละช่วยให้คุณค้นพบความคิดใหม่ๆ แนวทางใหม่ ที่สำคัญอาจทำให้คุณมรประสบการณ์สร้างความสำเร็จได้โดยเร็วอีกด้วย 7.หาเวลาว่างให้ตัวเองการมีเวลาว่างเพื่อคิดอะไรบ้างอย่างในสถานที่ที่เงียบสงบ สะดวกต่อการคิดทบทวนเรื่องต่างๆ ก็สามารถช่วยให้ความคิดไหลลื่น และแตกฉานได้โดยง่าย ดังนั้น ลองหาเวลาว่าง และสถานที่สงบๆ คิดหาความก้าวหน้าดู แล้วคุณจะพบจุดจบแห่งความสำเร็จอย่างแน่นอน 8.อ่านให้เยอะการอ่านให้เยอะๆ คือ การศึกษาความรู้จากตำรา หรือแหล่งความรู้ทั่วไป ซึ่งการที่คุณมีความรู้ มักจะช่วยให้คุณสามารถคิดและวิเคราะห์ความสำเร็จได้ง่ายขึ้น และไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกมากมาย เพียงใช้ความรู้ทั้งหมดมาปฏิบัติให้สำริดผลก็เพียงพอ 9.หาตัวช่วยตัวช่วยที่ดี คือ ช่วยคิด ช่วยวิเคราะห์ และช่วยไตร่ตรอง เพราะบางทีความคิดคุณคนเดียวอาจไม่ใช่ความคิดที่ดีที่สุด จึงต้องมีตัวช่วยอย่างยิ่ง เพื่อให้เกิดหลายแนวความคิดนั่นเอง 10.ดูแล้ววิเคราะห์การวิเคราะห์ผลงานคนอื่น ช่วยให้สมองเกิดกลไก และมีการทำงานที่ดีขึ้น อีกทั้ง ช่วยให้คุณสามารถนำความรู้จากการวิเคราะห์นี้ไปต่อยอดความสำเร็จของตัวเองได้ และเป็นวิธีที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องการประสบความสำเร็จในเรื่องของงาน หรือการดำรงชีวิตของตนเอง

“ฟังสัมมนาอย่างไร ให้ก้าวหน้า!!”

“ฟังสัมมนาอย่างไร ให้ก้าวหน้า!!”

“ฟังสัมมนาอย่างไร ให้ก้าวหน้า!!”“ฟังสัมมนาอย่างไร ให้ก้าวหน้า” ลักษณะของงานสัมมนาทั่วไปเป็นกิจกรรมที่แบ่งออกเป็น 2 วิธี คือ “การประชุม” และ “วิธีการสอน” >>เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็น>>หาข้อสรุปหรือข้อเสนอแนะในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง>>หาทางออกให้กับปัญหาแต่สำหรับใครที่อยากประสบความสำเร็จต้องฟัง แล้ววิเคราะห์ และทดลอง ดังนั้น เรามาดูกันว่า ฟังสัมมนาอย่างไร ให้มีความรู้ และก้าวหน้าได้อย่างสำเร็จ1.ฟังอย่างมีจุดมุ่งหมายโดยทั่วไปจุดมุ่งหมายของการฟังมี 3 อย่าง คือ ฟังเพื่อความเพลิดเพลิน , ฟังเพื่อความรู้ , ฟังเพื่อให้ได้คติชีวิตหรือความจรรโลงใจ ดังนั้น เมื่อใครที่เข้าสัมมนาแล้วมีจุดมุ่งหมายคือ “ความสำเร็จ”ต้องตั้งใจฟังเพื่อความรู้ และตักตวงความรู้จากการฟังให้มากที่สุด ถ้าความจำไม่ค่อยดี ก็ใช้วิธีจดบันทึก เพื่อเก็บความรู้ให้มากที่สุด 2.มีความพร้อมการที่คุณมีความพร้อม ต้องมีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ตลอดจนมีความพร้อมทางสติปัญญา พร้อมทางร่างกาย    เช่น   สุขภาพทางร่างกายเป็นปกติ ไม่เหนื่อย ไม่อิดโรย และต้องพร้อมทางจิตใจด้วย เพื่อให้เวลาฟังสัมมนาจะได้มีสติฟังอย่างเข้าใจ แล้วทุกอย่างจะดีเอง 3.ฟังโดยมีสมาธิสมาธิ คือ สิ่งที่สำคัญสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ซึ่งการฟังโดยมีสมาธิ หมายถึง ฟังด้วยความตั้งใจจดจ่ออยู่กับเรื่องที่ฟัง ไม่ปล่อยจิตใจให้เลื่อนลอยไปที่อื่น ไม่เช่นนั้น ความรู้ที่คุณจะได้รับกลายเป็นศูนย์อย่างแน่นอน 4.กระตือรือร้นใครที่ฟังสัมมนาความรู้มีความกระตือรือร้น มักจะเป็นผู้ฟังที่มองเห็นประโยชน์หรือเห็นคุณค่า จึงสนใจฟังเรื่องนั้นจริงๆ ซึ่งความกระตือรือร้นส่งผลดี ทำให้จิตใจ และความตั้งใจที่จะเก็บเกี่ยวความรู้ได้มากที่สุด ไม่เพียงเท่านี้ ยังทำให้สมองเปิดรับความรู้ได้จำนวนมากอีกด้วย 5.ไม่มีอคติคนที่มีอคติ ย่อมทำให้จิตใจร้อน ปิดการรับฟัง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อตัวคุณเลย เพราะถ้าหากต้องการฟังสัมมนาให้เกิดความรู้ และความเข้าใจไม่ว่าคุณจะมีอคติอะไรก็ตามแต่ ต้องปล่อยวาง และแยกะแยะ มุ่งศึกษาหาความรู้ดีกว่า ที่สำคัญการไม่มีอคติต้องพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วน เพื่อไม่ให้เป็นโทษแก่ผู้อื่น 6.มีมารยาทในการฟังมารยาทในการฟังที่ดี ต้องรู้จักเคารพผู้พูด และคนรอบข้าง โดยการแสดงความกระตือรือร้นที่จะฟัง ตั้งคำถามตามความเหมาะสม ยอมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป และต้องไม่ใช้อารมณ์หรือนิสัยส่วนตัวมาตัดสินเรื่องต่างๆ ในห้องสัมมนาด้วย 7.มีความประสงค์ที่แน่นอนเมื่อคุณเลือกที่จะเข้าสัมมนาเพื่อไปหาความรู้ นั่นคือความประสงค์ของคุณ ดังนั้น ต้องพยายามฟังให้ได้ตามความจุดหมายมากที่สุด โดยใช้วิจารณญาณเลือกฟังแต่เรื่องที่ควรฟังและหลีกเลี่ยงเรื่องที่ไม่เหมาะสม รู้จักแยกแยะส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงและความคิดเห็น รู้จักใช้เหตุผลประกอบในการแสดงความเห็น โดยต้องรู้จักใช้ศิลปะในการฟังด้วย 8.แยกแยะข้อเท็จจริงเมื่อฟังสัมมนาความรู้แล้ว อย่าเชื่อไปทุกเรื่องที่ได้ฟังมา คุณต้องนำข้อมูลนั้นมาพิจารณาให้เห็นถึงข้อเท็จจริง ถ้าข้อมูลไหนที่ไม่แน่ใจต้องไปค้นหาคำตอบ หรือยกมือเพื่อสอบถามให้ได้รายละเอียดที่แน่ชัด เป็นต้น 9.ดูเจตนาของผู้พูดผุ้ฟังที่ดี ที่ต้องการได้ความรู้จากการฟังสัมมนา เพื่อใช้เป็นแนวทางหาหนทางความสำเร็จ ต้องรู้จักดูเจตนาของผู้พูด เพราะบางครั้งผู้พูดอาจบอกเล่า แถลงการณ์รายงานเรื่องราวต่างๆหรือพูดนอกเรื่องไปต่างๆ นานา ฉะนั้น ผู้ฟังต้องพิจารณาถึงข้อมูลที่มีสาระกับไม่มีสาระให้ถูกต้อง เพื่อการนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 10.ความสำคัญของเรื่องที่พูดผู้ฟังต้องวิเคราะห์ถึงความสำคัญและความเป็นมาของเรื่องที่ผู้พูดให้ดีๆ ว่าผู้พูดได้แสดงความสำคัญเรื่องนั้นๆ อย่างไรบ้าง และมีประโยชน์ต่อตัวคุณเองมากน้อยแค่ไหนเพราะการที่เราจดทุกรายละเอียดที่พูด อาจทำให้ข้อมูลที่สำคัญหล่นหลายไปได้ จึงควรแยะความสำคัญของเรื่องที่ฟังด้วย ดังนั้น คุณเองก็ต้องย้อนกลับไปอ่านข้อที่ 1 ด้วยว่าตัวคุณเองมีจุดมุ่งหมายอย่างไรกับการเข้าฟังสัมมนาในครั้งนี้

10 คุณสมบัติของการเป็นผู้นำ

10 คุณสมบัติของการเป็นผู้นำ

อยากประสบความสำเร็จต้องมีสิ่งนี้เป็นพื้นฐาน ภาวะการเป็นผู้นำไม่ใช่ว่าหัวหน้างาน ผู้จัดการเท่านั้นที่ต้องมีแต่เป็นสิ่งที่ทุกคนควรจะมี เพราะมีความสำคัญต่อการทำงานมากๆผู้นำที่ยอดเยี่ยม ต้องมีวิสัยทัศน์ มีความกล้าหาญ ความซื่อสัตย์ ความอ่อนน้อมถ่อมตน1.เห็นคุณค่าผู้นำที่ชาญฉลาดจะให้ความสำคัญกับทีมและบุคคล เพราะตระหนักว่าความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ก็เพราะความช่วยเหลือของทีม ยิ่งไปกว่านั้นการเห็นคุณค่ายังช่วยให้กำลังใจพัฒนาความเชื่อมั่นและสร้างจุดแข็งอีกด้วย 2.มั่นใจความไว้วางใจและความเชื่อมั่นในการเป็นผู้นำเป็นตัวบ่งชี้ ความน่าเชื่อถือและความพึงพอใจของพนักงาน ผู้นำที่ดีต้องไม่กลัวที่จะถูกท้าทายด้วยอุปสรรคปัญหาใหม่ๆ 3.ความเห็นอกเห็นใจผู้นำที่ดีจะใช้ความเห็นอกเห็นใจในการรับรู้ ถึงความต้องการของผู้ที่พวกเขาเป็นผู้นำและตัดสินใจเลือกแนวทางที่จะเป็นประโยชน์ สูงสุดแก่บุคคลและทีมงาน 4.กล้าหาญผู้นำต้องกล้าที่จะตัดสินใจในทันที ไม่แสดงท่าทีลังเลหรือขาดความมั่นใจ ความกล้าหาญของผู้นำจะสร้างขวัญกำลังใจให้กับลูกทีมได้ดี 5.มีความยืดหยุ่นผู้นำที่ดีสามารถยืดหยุ่นได้ พวกเขาปรับเปลี่ยนตนเอง ตามสถานการณ์บริบทและสถานการณ์ที่พวกเขาพบ พวกเขายินดีต้อนรับแนวคิดใหม่ๆและยอมรับ การเปลี่ยนแปลง 6.ซื่อสัตย์ผู้นำที่ฉลาดไม่กลัวที่จะสื่อสารความจริงกับคนของพวกเขา ความซื่อสัตย์เป็นเรื่องของความสุจริต ที่จะสร้างความไว้วางใจ ความซื่อสัตย์ทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น 7.หนักแน่นไม่กลัวปัญหาที่ต้องเผชิญ มีสติและรู้เสมอว่าทุกปัญหา ต้องผ่านไปได้เสมอมีจุดยืนของตัวเองกล้าหาญที่จะยืนหยัด รักษาความถูกต้อง แม้จะเจอกับอุปสรรค ผู้นำต้องหนักแน่นและไม่ท้อถอยง่ายๆ ไม่งั้นคุณก็ป็นเพียงผู้ที่เกิดมาเพื่ออยู่ ภายใต้บังคับบัญชาเท่านั้น 8.ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดผู้นำที่ดีต้องมีความเป็นกลาง ไม่อคติกับผู้ร่วมงาน เพราะอาจส่งผลให้คนในทีมเขม่นกันเอง ประสิทธิภาพของงานก็ด้อยลงเพราะทีมขาดความสามัคคี 9.ตอบสนองผู้นำที่ดีจะตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใต้บังคับบัญชา รู้จักปรับพฤติกรรมให้เหมาะสมกับสถานการณ์มากที่สุด คอยรับฟังทีมและให้ความสำคัญกับทีม 10.นอบน้อมความอ่อนน้อมถ่อมตนไม่ได้หมายความว่าคุณอ่อนแอ หรือไม่มั่นใจในตนเอง แต่ชี้ให้เห็นว่าคุณมีความมั่นใจ ในตนเองและมีความตระหนักในตนเองในการรับรู้ คุณค่าของผู้อื่น

10 เคล็ดลับสร้างแรงบันดาลใจสู่ความสำเร็จ

10 เคล็ดลับสร้างแรงบันดาลใจสู่ความสำเร็จ

1.ทำสิ่งที่ไม่เคยทำไปในที่ที่ไม่เคยไป เมื่อไหร่ที่ชีวิตได้ลองทำหรือได้ไปในสถานที่แปลกใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจแล้วล่ะก็ ความเบื่อหน่าย อาการเนือยๆ มันจะหายไปภายในพริบตาเดียว คุณจะรู้สึกว่าชีวิตยังมีอะไรที่น่าค้นหาอีกเยอะ แล้วแรงบันดาลใจจะหลั่งไหลพรั่งพรูเข้ามาอย่างไม่ขาดสายเลยทีเดียว 2.มองโลกในแง่ดีคนมองโลกในแง่ดี มักมีโอกาสดีกว่าคนอื่น เพราะเมื่อมองทุกอย่างเป็นบวก ก็ช่วยให้มีสุขภาพจิตดี ความคิดโปร่งใส และทำให้เกิดจินตนาการและแรงบันดาลใจที่ดีเกิดขึ้นมาได้ 3.ควรสร้างทัศนะคติแบบ “ฉันทำได้”นี่คือหนึ่งในทัศนะคติที่สำคัญที่สุดในการที่จะประสบความสำเร็จ คนเรามีโอกาสเข้ามาในชีวิตมากมายแต่หลาย ๆ คนก็ได้ปฏิเสธโอกาสเหล่านั้นด้วยคำว่า “ทำไม่ได้” ซึ่งทำให้หลายๆ คนล้มเหลว เมื่อเราคิดว่า “เราทำได้” ร่างกายทุกอย่างก็จะเกิดการตอบสนองต่อความคิดนี้และเราก็จะเห็นเราสามารถทำสิ่งต่างๆได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดแรงบันดาลใจที่จะทำสิ่งต่างๆให้ประสบความสำเร็จ 4.รู้จักบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพและชาญฉลาดทุกคนในโลกนี้มีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากันหมด แต่สิ่งที่ทำให้เกิดความแตกต่างคือ ใครใช้เวลาที่มีอยู่นั้นได้คุ้มค่ากว่ากัน ได้ทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับเป้าหมายของตนหรือไม่ เมื่อตระหนักได้ตามนี้จะทำให้รู้ว่าควรมุ่งมั่นต่อเป้าหมายของตนและดำเนินชีวิตได้ดียิ่งขึ้น 5.ความผิดพลาดมีไว้ให้เรียนรู้ไม่ได้มีไว้ให้เจ็บช้ำหรือโศกเศร้าเสียใจ แน่นอนว่าเราทุกคนไม่สามารถห้ามการเสียใจหรือโศกเศร้าเมื่อเกิดความผิดพลาดได้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ เมื่อรู้ว่าผิดพลาดแล้วให้คิดหาสาเหตุของความผิดพลาดนั้น แล้วนำมาปรับปรุงแก้ไขไม่ให้เกิดขึ้นได้อีก 6.จดบันทึกคนประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะใช้เวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมงต่อวัน ในการคิดเพื่อที่จะคิดอย่างมีประสิทธิภาพ การจดบันทึกจะช่วยให้เราจำสิ่งๆนั้นได้ดีขึ้นหลายเท่า นอกจากนี้คุณยังสามารถจดบันทึกเรื่องราวต่างๆ เช่น ความสำเร็จ ความล้มเหลว ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับเราได้เมื่อเราได้ย้อนกลับมาอ่านอีกครั้งหนึ่ง 7.การหาแบบอย่างหรือบุคคลตัวอย่างโดยเฉพาะบุคคลที่ประสบความสำเร็จหรือบุคคลที่เราอยากจะมีชีวิตแบบเขาก็เป็นอีกทางหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจขึ้นภายในตนเอง ศึกษาว่าเขามีแนวคิด แนวปฏิบัติอย่างไรจึงประสบความสำเร็จเราก็สามารถนำเอามาสร้างแรงบันดาลใจเพื่อต้นแบบสู่ความสำเร็จของเราได้ 8.มีเป้าหมายและวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนก่อนจะพิชิตเป้าหมาย ต้องรู้ก่อนว่า เป้าหมายของเรานั้นคืออะไร เป้าหมายที่ชัดเจนทำให้เรารู้ว่าต้องการจะเป็นอะไร ผู้ที่ไม่มีเป้าหมายในชีวิตก็เหมือนคนที่ไม่มีแรงผลักดัน ขาดแรงจูงใจ และจะไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต 9.การอ่านหนังสือดีๆหนังสือที่ดีสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับเราได้ ผู้นำในหลายๆประเทศได้อ่านเรื่องเรื่องของบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ทางการเมือง ผู้นำประเทศเหล่านั้นจึงได้สร้างแรงบันดาลใจในตัวเองขึ้น เขาเหล่านั้นจึงเกิดความต้องการที่จะเป็นผู้นำประเทศเหมือนกับชีวประวัติของผู้นำในหนังสือบ้าง 10.การเขียนเป้าหมายคือการสร้างภาพความฝัน ที่เราเองต้องการอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะตอนก่อนเข้านอน ในโลกนี้มีกฎแห่งการดึงดูด หากหมกมุ่นครุ่นคิดเรื่องใดเป็นประจำ ก็มักจะได้สิ่งนั้น ดังนั้นวิธีง่ายๆ จงคิดถึงมัน จึงฝันถึงมัน จงจินตนาการถึงเป้าหมายของเราบ่อยๆ แล้วชีวิตของคุณก็จะเดินทางไปสู่เป้าหมายหรือความฝันของตนเองได้สำเร็จในที่สุด “ฝันให้ไกล…แล้วไปให้ถึง”